สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ว่า แหล่งข่าวด้านความมั่นคงในรัฐบาลคาบูล เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีอัชราฟ กานี กำลังติดต่อประสานงาน และเจรจาอย่างใกล้ชิด กับกองกำลังติดอาวุธพลเรือนตามหัวเมืองหลายแห่ง ว่าแม้เคยสู้รบกันมาก่อนในอดีต แต่ตอนนี้ขอความร่วมมือ "แบบเฉพาะกิจ" เพื่อการปกป้องกรุงคาบูลให้รอดพ้นจากการยึดกครองของกลุมตาลีบัน ที่ตอนนี้เดินหน้ากระชับพื้นที่ตามเมืองใหญ่ทางตอนเหนือและตะวันตกของอัฟกานิสถานได้อย่างต่อเนื่อง
การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงโค้งสุดท้าย ของการที่กองทัพสหรัฐและพันธมิตรเตรียมถอนทหารชุดสุดท้ายออกจากอัฟกานิสถาน ภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้ ปิดฉากภารกิจทางทหารที่ยาวนาน 20 ปีในอัฟกานิสถาน เพื่อทำสงครามหลังเหตุวินาศกรรม 9/11 เมื่อปี 2544 โค่นอำนาจรัฐบาลตาลีบัน และสังหารนายโอซามา บิน ลาเดน ผู้ก่อตั้งกลุ่มอัล-กออิดะห์    

ขณะที่ พลล.ร.ต.จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันมีความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อ "ศักยภาพ" ของกองทัพอัฟกานิสถาน ในการต่อสู้กับกลุ่มตาลีบัน

อย่างไรก็ตาม การสู้รบระหว่างกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของอัฟกานิสถานและกลุ่มตาลีบันจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการกำหนดทิศทางโดยรัฐบาลคาบูลและชาวอัฟกัน และยอมรับว่า ตอนนี้กองทัพสหรัฐ "ทำอะไรไม่ได้มาก" แม้ทหารจำนวนหนึ่งยังประจำการอยู่ แต่กำลังจะถึงกำหนดการถอนกำลังพลภายในสิ้นเดือนนี้
ในอีกด้านหนึ่ง นายชาห์ มาห์มูด กูเรชี รมว.การต่างประเทศปากีสถาน ออกมาปฏิเสธอีกครั้ง ว่ารัฐบาลอิสลามาบัด "ไม่มีความเกี่ยวข้องในทางใดก็ตาม" กับกลุ่มตาลีบัน ตามที่สหรัฐและรัฐบาลคาบูลกล่าวหา และยืนยันว่า ปากีสถาน "ไม่ได้เลือกข้าง" แต่กล่าวถึงการที่กลุ่มตาลีบันกำลังขยายอิทธิพลได้มากที่สุด นับตั้งแต่ปี 2544 ว่าสะท้อน "ความล้มเหลว" ของกองทัพอัฟกานิสถาน "ที่แม้ได้รับการฝึกฝนแล้ว".

เครดิตภาพ : AP