ศึกมวยชิงแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตสมาคมมวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ), สหพันธ์มวยนานาขาติ (ไอบีเอฟ) และ องค์กรมวยโลก (ดับเบิลยูบีโอ) ที่สังเวียนคิง อับดุลลาห์ สปอร์ตส์ ซิตี ในเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นการชกกันระหว่าง โอเล็กซานเดอร์ อูซีค แชมป์โลกชาวยูเครน กับ แอนโธนี โจชัว ยอดมวยชาวอังกฤษ ซึ่งถือเป็นไฟต์ล้างตาหลังนักชกเเลือดผู้ดีเคยพ่ายคะแนนยอดมวยยูเครน เสียแชมป์โลกไปในการชกกันไฟต์แรกที่กรุงลอนดอน เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว
การชกไฟต์นี้ ทั้งคู่แลกหมัดกันอย่างสนุกสูสี โดย โจชัว อัดจน อูซีค ออกอาการในยกที่ 9 แต่แชมป์โลกชาวยูเครนก็เล่นงานจนคู่ปรับเลือดผู้ดีโอนไปเอนมาในช่วง 3 ยกสุดท้าย ก่อนฟาดปากกันครบ 12 ยก ผลปรากฏว่าเป็น อูซีค ที่เอาชนะคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 2-1 เสียง 115-113, 116-112 และ 113-115 ป้องกันแชมป์โลกเอาไว้ได้สำเร็จ
หลังการชก อูซีค ออกมาเผยว่า เขาต้องการรวบแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตมาครองแต่เพียงผู้เดียว และต้องการเปิดศึกกับ ไทสัน ฟิวรี แชมป์ของสภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) ซึ่งเป็นเข็มขัดแชมป์โลกสภาบันหลักหนึ่งเดียวที่เขายังไม่ได้มาครอบครอง แม้แชมป์โลกดับเบิ้ลยูบีซีชาวเมืองผู้ดี เพิ่งประกาศยืนยันการแขวนนวมในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ก็ตาม โดยกล่าวว่า “ผมขออุทิศชัยชนะครั้งนี้ให้กับครอบครัวของผม ทีมงาน รวมถึงประเทศชาติ และกองกำลังทหารที่ช่วยกันปกป้องบ้านเกิดของผมอยู่ในเวลานี้ ผมขอขอบคุณ”
“ผมมั่นใจว่า ไทสัน ฟิวรี ยังไม่แขวนนวมจริง ๆ แน่ ผมเชื่อว่าเขาอยากชกกับผม ผมก็อยากชกกับเขา ถ้าผมไม่ได้ชกกับ ไทสัน ผมก็คงไม่ขึ้นสังเวียนชกกับใครอีกเลยดีกว่า แต่มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าผมจะได้ชกกับเขาหรือไม่ แต่สุภาพบุรุษเหล่านี้ที่เป็นทีมงานของผม น่าจะช่วยให้ผมได้ชกกับเขาในที่สุด” อูซีค ซึ่งเพิ่มสถิติเป็นชนะรวด 20 ไฟต์ โดยเป็นการชนะแบบไม่ครบยก 13 ครั้ง กล่าว
ด้าน โจชัว ซึ่งแพ้เป็นไฟต์ที่ 3 ในการชกมวยสากลอาชีพ และชนะ 24 ครั้ง โดยชนะแบบไม่ครบยก 22 ครั้งนั้น แสดงความไม่พอใจกับผลการตัดสิน โดยเอาเข็มขัดแชมป์ของ อูซีค มาโยนทิ้ง แล้วหุนหันเดินลงเวทีไปด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะเปลี่ยนใจกลับขค่นมาให้สัมภาษณ์อีกครั้งนั้น กล่าวว่า “อูซีค เป็นนักชกที่ยอดเยี่ยมาก สิ่งที่ผมแสดงออกมันเป็นเรื่องของอารมณ์เท่านั้น ถ้าคุณรู้ที่มาที่ไปของผม คุณคงเข้าใจ ผมไม่ใช่นักมวยสมัครเล่น ผมเคยเกือบติดคุกมาแล้วก่อนจะมาชกมวย”
“สิ่งที่เกิดขึ้นมันแสดงให้เห็นว่าเราทุ่มเทกับการชกไฟต์นี้ขนาดไหน และสำหรับเขาที่เอาชนะผมได้ในไฟต์นี้ มันทำให้เห็นว่าเขาทำงานหนักขนาดไหนในการเตรียมตัว ดังนั้นเราควรปรบมือให้เขาผู้ซึ่งเป็นเข้าของแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต” โจชัว ทิ้งท้าย
เครดิตภาพ : REUTERS