นฤเบศวร์ ถนิมพาสน์ ผู้สื่อข่าวกีฬาเดลินิวส์ รายงานข่าวการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 “โตเกียวเกมส์” ซึ่งชิงชัยเป็นวันสุดท้าย พร้อมมีพิธีปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา
ฝรั่งเศสนำหอไอเฟลรับธงจัดอลป.
การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 มีพิธีปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านท่ โดยญี่ปุ่นเจ้าภาพ เริ่มขึ้นในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 18.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ที่โอลิมปิก สเตเดียม กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ในการนี้ เจ้าชายอากิชิโนะ เสด็จเป็นผู้แทนพระองค์ร่วมพิธี ขณะที่ชุดการแสดงต่าง ๆ ของเจ้าภาพมุ่งเน้นในด้านการแสดงที่ผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่้นของญี่ปุ่นกับวิวัฒนาการของโลกที่เข้าสู่โลกยุคใหม่ที่ผสมผสานเทคโนโลยีอันส่งผลต่อการพัฒนาของวงการกีฬาโลกด้วย
ด้านพิธีการรับธงเจ้าภาพครั้่งต่อไป ฝรั่งเศส เจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ที่จะจัดในอีก 3 ปีข้างหน้าจะถูกส่งต่อโดย ยูริโกะ โคอิเคะ ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียว มอบให้ โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ส่งมอบให้ แอนน์ ฮิดัลโก นายกเทศมนตรีกรุงปารีสที่เดินทางมารับมอบธงด้วยตัวเอง
สำหรับ ปารีส เคยเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน มาแล้ว 2 ครั้งในปี 1900 และ 1924 ทำให้ โอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 จะเป็นการครบรอบ 100 ปี การเป็นเจ้าภาพของฝรั่งเศสอีกครั้ง โดยเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ครั้งต่อไป นำชุดการแสดงมาโชว์ต่อเนื่อง 3 ชุดคือ ลามาร์แซแยซ ชื่อเพลงชาติฝรั่งเศส ที่จะนำเสนอถึงสถานที่สำคัญ ๆ ของกรุงปารีส พร้อมด้วยเพลงออร์เคสต้า ชั้นนำ และมี มีโธมัส เปสเกต์ นักบินอวกาศชาวฝรั่งเศสมาร่วมบรรเลงเพลงผ่านแซกโซโฟนจากสถานีอวกาศนานาชาติที่โคจรผ่านน่านฟ้า ญี่ปุ่นในช่วงโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 พอดี
ชุดที่ 2 เป็นการแสดงชุด “ไรด์ โอเวอร์” ดาดฟ้าแห่งกรุงปารีส โดยใช้รถจักรยาน บีเอ็มเอ็กซ์ เป็นสื่อในการนำเสนอปั่นผ่านดาดฟ้าของสถานที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น หอนาฬิกา พิพิธภัณฑ์ออร์แซ หรือ มูว์เซดอร์แซ, อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล หรือ ประตูชัยฝรั่งเศส, พระราชวังหลวง ปาแล-รัวยาล, โรงอุปรากร ปาแลการ์นีเย่
ชุดที่ 3 ดิ ไอเฟล ทาวเวอร์ ซึ่งจะเป็นการชักธงเจ้าภาพการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์บนหอไอเฟล โดยธงขนาดมหึมา สูง 90 เมตร กว้าง 60 เมตร ซึ่งจะเป็นธงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หรือ ขนาดเกือบเทียบเท่า 1 สนามฟุตบอล และ จะทำให้หอไอเฟล บันทึกสถิติใหม่เป็น เสาธง ที่สูงที่สุดในโลก ของกินเนสบุ๊ก ออฟ เวิลด์ เรคคอร์ด ต่อเนื่องด้วยการบินผาดโผนของฝูงบินรบ พาตโทรเย อโครบาติก ลา ฟรองซ์ ที่บินผ่านหอไอเฟล พร้อมไอพ่นสีธงชาติฝรั่งเศส
น้องแต้วควงสดถือธงไทย
สำหรับทัพนักกีฬาไทยที่ร่วมในพิธีปิด ทั ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เข้าร่วมชมพิธีปิดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ด้วย ส่วนคณะบุคคลที่จะเดินพาเหรดในสนามนำโดย “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักชกเหรียญทองแดง มวยสากลสมัครเล่นหญิงคนแรกของไทยในโอลิมปิกเกมส์ ถือธงชาติไทย กับ “สด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักชกไทยวัย 36 ปี รุ่นเฟเธอร์เวต (57 กก.) ที่ลงแข่งกีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งที่ 3 และแขวนนวมในครั้งนี้ โดยมีทีมนักชกไทย และเจ้าหน้าที่คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ร่วมเดินลงสู่สนาม ปิดฉากการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
สหรัฐครองเจ้าทองโตเกียวเกมส์
สหรัฐอเมริกา ได้ครองเจ้าเหรียญทองโอลิมปิก 2020 “โตเกียวเกมส์” คว้ามาได้ 39 ทอง 41 เงิน 33 ทองแดง รวม 113 เหรียญ นับว่าเป็นการครองเจ้าทองสมัยที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากโอลิมปิก 2016 “ริโอเกมส์” สหรัฐได้ครองเจ้าทองที่ 46 ทอง 37 เงิน และ 38 ทองแดง ส่วนอันดับ 2 โอลิมปิกหนนี้เป็น จีน คว้าได้ 38 ทอง 32 เงิน 18 ทองแดง รวม 88 เหรียญ และอันดับ 3 เจ้าภาพญี่ปุ่น 27 ทอง 14 เงิน 17 ทองแดง รวม 58 เหรียญ ส่วนที่ 4 สหราชอาณาจัก 22 ทอง 21 เงิน 22 ทองแดง และ 5.รัสเซีย 20 ทอง 27 เงิน และ 23 ทองแดง
ส่วนผลงานของนักกีฬาไทยในกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ได้มา 1 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง จากกีฬาเทควันโดหญิงรุ่น 49 กก. “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ และ “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี จากมวยสากลหญิงรุ่นไลต์เวต (60 กก.) อยู่อันดับ 59 ในโตเกียวเกมส์ เป็นอันดับ 3 ในกลุ่มอาเซียน โดยอันดับในประเทศอาเซียนที่คว้าเหรียนญในโอลิมปิกครั้งนี้ ได้แก่ อันดับ 49 ฟิลิปปินส์ 1-2-1 (ทอง-เงิน-ทองแดง),อันดับ 54 อินโดฯ 1-1-3,อันดับ 59 ไทย 1-0-1 และอันดับ 85 มาเลเซีย 0-0-1
“แต้ว”ขึ้นรับเหรียญเปิดใจสู้ต่อ
ในเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 14.00 น. ตามเวลาเมืองไทย วันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนพิธีปิดเริ่มขึ้นที่สนามโกคุกิคัง อารีน่า ซึ่งเป็นรอบชิงชนะเลิศมวยสากลสมัครเล่น “โตเกียวเกมส์” “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี ได้ขึ้นรับเหรียญทองแดง อย่างเป็นทางการในมวยสากลสมัครเล่นหญิงรุ่นไลต์เวต (60 กก.) โดยเหรียญทองรุ่นนี้เป็นของ เคลลี แอนด์ แฮร์ริงตัน นักชกสาวไอร์แลนด์ ที่ชนะคะแนน “น้องแต้ว” ในรอบรองฯ แบบสูสี 3-2 เสียง,เหรียญเงิน บีตริซ เฟอร์ไรรา (บราซิล) และเหรียญทองแดงอีกคน เป็นของ เมียรา มาร์จุท โจฮันนา โพตโคเนน จากฟินแลนด์ ซึ่งหลังรับเหรียญ “น้องแต้ว” เปิดใจว่า ตอนช่วงขึ้นโพเดี้ยมขึ้นรับเหรียญทองแดงรู้สึกภูมิใจมาก เพราะกว่าจะได้มาต้องทุ่มเทฟิตซ้อมอย่างหนัก และผ่านศึกหนักในรอบคัดเลือก จนมาถึงวันนี้ได้ ความฝันที่อยากขึ้นรับเหรียญโอลิมปิก เป็นจริงแล้สว ตนคิดว่าเหรียญนี้ เพื่อพ่อที่อยู่บนสวรรค์ แม่ที่คอยให้กำลังใจ ตลอดจนชาวไทยทุกคร และตนจะไม่หยุดแค่นี้ จะสู้ต่อไป เมื่อกลับมาคว้าเหรียญในกีฬาโอลิมปิกให้ได้อีกครั้ง ในโอลิมปิกครั้งหน้า คือกีฬาโอลิมปิก 2024 “ปารีสเกมส์”
สร้างบ้านให้แม่-บริจาค 5 แสนสูโควิด
ฮีโร่สาวโตเกียวเกมส์ กล่าวว่า ก่อนที่จะเดินทางมาตนพูดกับตัวเองว่าหากไม่ประสบความสำเร็จได้เหรียญกลับไปก็พร้อมจะสู้ใหม่อีกครั้งในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส แต่ถ้าไปไม่ถึงฝันการได้บรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารเรือก็ถือเป็นความสำเร็จในเบื้องต้น และตนก็เตรียมลู่ทางด้วยการทำอาชีพเสริมซึ่งหนึ่งในนั้นคือการทำธุรกิจเล็กๆ เปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเองเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว จากนั้นก็จะเก็บหอมรอบริบจากการเป็นนักมวยทีมชาติสักก้อนเพื่อซื้อที่ดินในจังหวัดอุดรเก็บไว้ทำนาทำสวนทำไร่ แบบเศรษฐกิจพอเพียงและซ่อมแซมปรับปรุงบ้านให้กับแม่ แต่ตอนนี้เมื่อได้เหรียญรางวัลโอลิมปิก ฝันต่าง ๆ ที่ตนตั้งใจไว้เกิดขึ้นแล้ว และจะทำตามฝัน หลังจากได้รางวัลแห่งความสำเร็จครั้งนี้ ตนคิดไว้แล้วว่าหลังจากพ้นการกักตัวหากไม่ติดคิวอะไรที่ทางสมาคมมวยฯวางไว้ ตนก็จะกลับบ้านไปหาแม่ทันทีเพราะคิดถึงมาก ๆ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว จากนั้นก็จะกลับไปหารือว่าต่อจากนี้เราจะเริ่มต้นกันอย่างไรก่อนตามฝันที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก ที่แน่ๆ ตนจะต้องสร้างบ้านหลังใหม่ให้แม่ที่จ.อุดรธานี คิดว่าประมาณกว่า 1 ล้านบาท เพื่อให้แม่อยู่สบายมีความสุข รวมถึงบริจาค 5 แสนบาทใ เพื่อซื้อเครื่องมือแพทย์ มอบให้โรงพยาบาลในจังหวัดอุดรฯ ต่อสู้กับพิษ “โควิด-19”
เรียนต่อดอกเตอร์แน่นอน
“น้องแต้ว” กล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนจบการศึกษาระดับปริญญาโทแล้ว ทราบว่าทางมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ จะมอบทุนเรียนต่อระดับปริญญาเอก ซึ่งตนพร้อมเข้ารับการศึกษาต่อแน่นอน เพื่อความก้าวหน้าทางอาชีพราชการ ที่ได้เลื่อนยศเป็นเรือตรี ซึ่งก่อนมาชก็แอบบหวังไว้ลึก ๆ และความหวัง ควาฝันก็เป็จริง
ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยให้มีวันนี้
นอกจากนั้น “น้องแต้ว” กล่าวด้วยว่า ความสำเร็จในวันนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้หาก ไม่ได้รับการสนับสนุน ต้องขอขอบคุณชาวไทยทุกคนที่ส่งกำลังใจ ตลอดจนไมเพื่อนนักมวยทุกคนในทีมชาติที่ร่วมฝึกซ้อมกันมา สต๊าฟโค้ชที่คอยดูแลเคี่ยวเข็ญจนตนกล้าแกร่ง,การกีฬาแห่งประเทศไทย,คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทน สมาคมกีฬามวยสากลฯ ที่ให้โอกาสทั้ง “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานพัฒนาเทคนิคฯ ที่คอยสนับสนุนและสอนสั่งตนมาตลอด รวมถึงพ่อแม่ที่จับตนชกมวยมาตั้งแต่เล็ก ที่ขาดไม่ได้เลยท่านผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ที่ให้การสนับสนุนและให้รางวัลด้วยการให้ตนบรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารเรือเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต และขอมอบความสำเร็จและความสุขครั้งนี้ให้กับคนไทยทั้งประเทศ
