สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ว่ากระทรวงสาธารณสุขของอิโดนีเซียเผยแพร่รายงาน เป็นผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีน "โคโรนาแวค" ผลิตโดยบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค ของจีน เพื่อใช้ป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิง อายุตั้งแต่ 60 ปี จำนวน 86,936 คน อาศัยอยู่ในกรุงจาการ์ตา ระหว่างเดือนมี.ค.-เม.ย.ปีนี้ ปรากฏว่า วัคซีนตัวนี้สามารถป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการได้ 85%
ขณะเดียวกัน วัคซีนของซิโนแวคสามารถป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากโรคโควิด-19 ได้สูงสุด 92% ในกลุ่มผู้สูงอายุ และมีประสิทธิภาพป้องกันการเสียชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุได้ 95% ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนของซิโนแวคจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฉีดให้ครบสองเข็ม ตามระยะเวลาที่กำหนด เนื่องจากผลการศึกษาระบุด้วยว่า ประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการของกลุ่มผู้สูงอายุ ลดลงเหลือเพียง 35% หากฉีดเพียงเข็มเดียว
นอกจากนี้ ผู้สูงอายุซึ่งรับการฉีดวัคซีนของซิโนแวคครบสองโดส หากติดเชื้อและมีอาการป่วยจากโรคโควิด-19 มีโอกาสที่จะเสียชีวิตน้อยกว่าถึง 15 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลย ด้วยเหตุนี้ กระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียจึงขอรณรงค์ให้ผู้สูงอายุเข้ามารับการฉีดวัคซีนกับรัฐบาล
อนึ่ง รายงานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวคในอินโดนีเซียแตกต่างจากของในชิลีพอสมควร ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะตัวแปรทางสังคมที่แตกต่างกัน โดยรายงานของชิลีซึ่งรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 8.6 ล้านคน ระหว่างเดือนก.พ.ถึงก.ค.ปีนี้ พบว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการ อยู่ที่ 58.5% แต่สามารถป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตได้เท่ากันที่ 86%.

เครดิตภาพ : REUTERS