ตามที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประชุมร่วมกับ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ และ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อวันที่ 16 ส.ค.65 เกี่ยวกับการวางแผนก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์การแข่งขัน และการประสานงานด้านต่างๆ เพื่อให้ 2 ทีมช้างศึก ทั้งชุดใหญ่ และชุด 23 ปี พร้อมมากที่สุด ก่อนแข่งขันปี 2565-2567
การประชุมดังกล่าว สมาคมฯ มอบหมายให้ มาดามแป้ง ผู้จัดการทีมชาติไทย เป็นผู้ประสานงานและอำนวยความสะดวกให้กับสตาฟฟ์โค้ช และนักกีฬา เพื่อเข้าร่วมแข่งขันทัวนาเมนต์ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการเฟ้นหา คัดเลือกนักกีฬาที่มีความสามารถขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชาติชุดใหญ่อย่างต่อเนื่อง
สำหรับนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีนั้น สมาคมฯ มีนโยบายใช้ผู้ที่เกิด หลังวันที่ 1 ม.ค. 2544 ตามเกณฑ์ที่สามารถแข่งขันฟุตบอล 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2024 รอบสุดท้าย ชิงตั๋วปารีสเกมส์ นอกจากนี้ ยังมีนโยบายไม่ใช้นักเตะโควตาอายุเกินในซีเกมส์ กับ เอเชี่ยนเกมส์ โดยจะแต่งตั้งทีมงานหัวหน้าผู้ฝึกสอนเพื่อให้คัดเลือกนักฟุตบอลตามอายุดังกล่าว เพื่อให้มีการเก็บตัวฝึกซ้อมขนานไปกับทีมชาติชุดใหญ่ต่อไป
ขณะเดียวกัน “กีฬาเดลินิวส์” สอบถาม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประมุขลูกหนังไทย เกี่ยวกับการหารือกับ นางนวลพรรณ ซึ่ง บิ๊กอ๊อด กล่าวว่า จากที่ สมาคมฯ มีนโยบาย ใช้นักเตะเกิดหลังวันที่ 1 ม.ค. 2544 ในรายการฟุตบอล 23 ปี เพื่อต่อยอดไปสู่การชิงตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส รวมทั้งไม่ใช้นักเตะโควตาอายุเกิน ใน ซีเกมส์ และเอเชี่ยนเกมส์ นั้น ตนก็ได้แจ้งต่อ มาดามแป้ง ซึ่ง มาดามแป้ง ก็ยินดีรับข้อนโยบายดังกล่าว แต่พูดถึงกรณีหากระหว่างนี้ ทีมชาติไทย มีผลงานไม่ดี จะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มายังสมาคมฯ ซึ่งตนก็ตอบว่า ตนรับได้หากมีกระแสนี้
“แจ้งนโยบายในเรื่องการให้โอกาสดาวรุ่ง ซึ่งนอกจากโอลิมปิกเกมส์แล้ว ยังเพื่อฟุตบอลโลก 2026 ด้วย เน้นตรงนี้เลย คุณแป้งก็โอเคกับนโยบาย ผมก็บอกคุณแป้งว่าหากระหว่างนี้ ทีมชาติผลงานไม่ดี เพราะใช้ดาวรุ่ง ถ้าจะมีกระแสกดดัน ก็ให้กดดันที่ผม เราต้องยึดในหลักการ เมื่อวางนโยบายไปแล้ว จะโลเลไม่ได้” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว.