คงจะไม่ช้าเกินไป ถ้าคอลัมน์ “ดาวต่างมุม” จะขอเอ่ยคำว่า “ขอแสดงความยินดีอย่างที่สุด” กับ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดหญิงทีมชาติไทย ที่เพิ่งไปสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทอง กีฬาเทควันโด ในรุ่น 49 กก.หญิง ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มาให้คนไทยได้ชื่นใจกันทั้งประเทศ
เหรียญทองเหรียญนี้เป็นเหรียญแรกของวงการเทควันโดไทย ที่ปัจจุบันมี “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ เป็นนายสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ได้ร่วมมือร่วมใจกันเพียรพยายามมาหลายปี ในที่สุดก็มีวันนี้จนได้ ขณะที่ “น้องเทนนิส” เอง ยังถือเป็น “ฮีโร่เหรียญทอง” คนที่ 10 ของประเทศไทย อีกด้วย
หนูหายเหนื่อยเลยคะพี่!!!
นั่นคือเสียงใสๆ ของสาวน้อยที่ได้ตอบคำถามเราผ่านสายโทรศัพท์ ในวันที่ “น้องเทนนิส” มีคิวงานออกรายการสัมภาษณ์ผ่านออนไลน์แน่นเอี๊ยด แต่ก็ยังอุตส่าห์สละเวลาอันมีค่า ปลีกตัวมาให้คุยกับทีมข่าวกีฬาเดลินิวส์ นอกจากการพูดคุยแล้วเราต้องขอบคุณภาพที่นำมาใช้ประกอบจากน้องเทนนิสด้วย
สั้นๆ แต่ได้ใจความคุณพ่อสิริชัยปลูกฝังอะไรบ้าง
“นอกจากเรื่องระเบียบวินัย ขยัน อดทนแล้ว พ่อจะพูดมาตั้งแต่เด็กเลยว่าทั้งเรื่องกีฬาและการใช้ชีวิต ขอให้หนู “สู้จนวินาทีสุดท้าย” คะ ในสนามเราต้องสู้จนกว่าจะโดนไล่ออก เรื่องนี้หนูซึมซับมาตลอด และหนูก็ท่องขึ้นใจเลยว่าตราบใดที่ยังไม่หมดเวลา เราก็ยังมีโอกาสที่จะเป็นผู้ชนะได้คะ”
แล้วพี่สาวกับพี่ชายสอนอะไรกับตัวเรา
“พี่สาวกับพี่ชาย จะเป็นที่ปรึกษาที่ดีมากคะ ก็เป็นเหมือนแม่กับพ่ออีกคน “พี่โบว์ลิ่ง” นาวาอากาศโทหญิง กรวิกา พี่สาวคนโต คุยได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเรียน เพราะพี่สาวเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ ให้กับนักเรียนนายร้อย ที่โรงเรียนเตรียมทหาร และยังมีพี่เขย คือ พันโท ชาคริต มานพ ซึ่งสอบวิชาวิทยาศาสตร์ ที่เดียวกัน ซึ่งช่วยหนูให้เรียนจบปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนพี่ชายคนรอง “พี่เบสบอล” ศราวิน เป็นนักกีฬาเก่า ก็จะสอนเรื่องของการเล่นกีฬา รวมทั้งการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นๆ ในสังคมคะ”
น้องเทนนิสในวันวานกับวันนี้เปลี่ยนไปอย่างไร
“หนูเป็นยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้นคะ ก่อนและหลังได้เหรียญทอง ทั้งในและนอกสนามหนูก็ยังเป็นคนเดิมคะ ยังคงต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อการเป็นอันดับ 1 ของโลกต่อไป เพราะว่าคู่แข่งเขาก็ต้องจ้องเอาชนะเรา เขาจะต้องหาวิธี กลยุทธ์ และแท็กติก เพื่อล้มเราให้ได้ ดังนั้นเราต้องไม่หยุดนิ่ง ต้องฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น หากเราหยุดเขาก็ชนะเราแน่นอน และเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์เหรียญนี้จะย้ำเตือนให้หนูต้องทำให้ดีกว่านี้ หนูไม่หยุดแค่นี้แน่นอน”
วางแผนใช้เงินรางวัลยังไง
“อันดับแรกเลยหนูจะเอาไปให้พ่อคะ พ่อไม่ได้ทำอาชีพอะไร ยังมีหนี้ให้ต้องผ่อนทั้งรถและบ้าน แต่ตอนนี้พ่อไม่ต้องเหนื่อยแล้ว พ่อแก่มากแล้วอายุจะ 70 ปี พ่อทุ่มเทดูแลทำเพื่อหนูมามาก อยากให้พ่อสบาย จากนี้พ่อก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว แต่พ่อก็คือพ่อที่ไม่ชอบอยู่เฉยๆ ชอบพบปะเพื่อนฝูง เข้าสังคม ซึ่งนั่นก็คือความสุขของพ่อคะ”
“อีกอย่างคือถ้าเลิกเล่นหนูอยากมีร้านเล็กๆ เป็นของตัวเอง จะใช้เงินที่ได้มาส่วนหนึ่งมาเปิด “คาเฟ่สุนัข” นอกจากมีกาแฟและเครื่องดื่มให้บริการแล้ว อยากมีสุนัขให้ลูกค้าที่รักสัตว์รักสุนัขเข้ามาใช้บริการอย่างมีความสุขคะ”
ความพ่ายแพ้ที่เจ็บปวดที่สุด
“ครั้งแรกคือซีเกมส์ 2013 ที่เมียนมา หนูแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ ต้องบอกว่ามันเจ็บปวดมาก เพราะเราเคยฝึกซ้อมกับนักกีฬาเมียนมาคนนี้ที่กรุงเทพฯ เราก็ชนะขาดเลย แต่ครั้งนั้นหนูก็มีส่วนผิดเองที่เล่นไม่ตามฟอร์ม เล่นไม่ออก ขาตาย ที่สำคัญทำแต้มไม่ขาดเอง ก็ต้องบอกว่าครั้งนั้นคือประสบการณ์ คือบทเรียนที่ดีว่าการเจอกับเจ้าภาพ ถ้ามีโอกาสต้องเตะให้ขาดคะ”
“ส่วนอีกครั้งที่สอง คือ โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล ที่แพ้ให้กับ คิม โซ ฮุย จากเกาหลีใต้ ในรอบรองชนะเลิศ ทั้งๆ ที่หนูนำเข้าอยู่ 4-2 คะแนน เหลือเวลาอีกแค่ 4-5 วินาที แต่หนูก็พลาด ดันไปแลกกับเขา แล้วท่าที่เข้าไปแลกก็ไม่ได้แต้มด้วย แต่ของเขาได้แต้ม ตอนนั้นท้อใจมากเลยคะ คิดเลิกเล่นไปเลย คนอื่นอาจจะดีใจนะคะที่หนูเป็นฮีโร่ ได้เหรียญทองแดง แต่หนูไม่มีความสุขเลย หนูเจ็บปวดที่สุด เราทำให้โอกาสคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์หลุดมือไปเอง ก็ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของชีวิต ที่ทำผลักดันให้หนูมีวันนี้
เป้าหมายต่อไป
“อย่างที่หนูเคยบอกคะว่า หนูยังไม่เลิกเล่นเทควันโดแน่นอน หนูจะพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อพยายามคว้าเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในอีก 3 ปีข้างหน้าให้ได้ นอกจากนี้ยังมียังมีแชมป์โลกสมัยที่ 3 ก็เป็นอีกเป้าหมายสำคัญเช่นกันคะ”
อยากขอบคุณใครบ้าง
“แน่นอนว่าอันดับแรก ต้องเป็นครอบครัวของหนูคะ ทุกคนเป็นกำลังใจทุ่มเทเพื่อหนูตลอด ต่อมาก็คือคุณพิมล (ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคม) โค้ชเช ยอง ซอก โค้ชแม็ก โค้ชชิต โค้ชเล็ก และทุกคนในสมาคมฯ รวมทั้งสปอนเซอร์ที่สนับสนุนหนูและสมาคมฯ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หนูคงเอ่ยชื่อไม่หมด แต่หนูอยากบอกว่าขอบพระคุณมากจริงๆ คะ”
“นอกจากนี้ยังมีกองทัพอากาศ ท่านผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่ได้เปิดโอกาสให้หนูได้ติดยศ “เรืออากาศตรีหญิง” ซึ่งหนูมองว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง มีงานทำ หลังหนูเลิกรับใช้ชาติ ในฐานะนักกีฬาแล้ว หนูก็จะไปรับใช้ชาติ ในฐานะข้าราชการของประชาชน อยากเรียนหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ แทนเพื่อนๆ นักกีฬาทุกคนด้วยว่าอาชีพนักกีฬานั้นไม่มั่นคง อายุมันก็สั้นมาก เงินเดือนก็ไม่พอใช้จริงๆ หรือบางคนไม่มีเงินเดือนเลย ได้แค่เบี้ยเลี้ยง อยากให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องช่วยเอ็นดูพวกเรา ช่วยพิจารณาหามีสวัสดิการดีๆ หลังเล่นเล่นให้นักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนด้วยคะ”
อยากบอกอะไรกับคุณแม่และคุณยาย
“อยากบอกว่าหนูเสียดายมากๆ ที่ทั้งสองท่านไม่ได้อยู่ดูความสำเร็จของหนูในวันนี้ (เสียงเครือเหมือนจะร้องไห้) คุณแม่วันทนา เสียไปตั้งแต่หนูยังเด็ก ส่วนคุณยายก่อนไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ 2016 ท่านยังพาหนูไปบนและมาแก้บนหลังได้เหรียญทองแดงด้วย วันนี้แม้ว่าทั้งสองท่านจะไม่อยู่แล้ว แต่หนูอยากบอกว่าหนูได้ทำความสำเร็จทำความฝันของหนูของแม่และยายได้แล้วคะ อยากอุทิศรางวัลอันยิ่งใหญ่นี้ให้กับทั้งสองท่าน และหวังว่าทั้งสองท่านจะเฝ้าดูความสำเร็จและให้กำลังใจ คุ้มครองหนูในทุกเส้นทางตลอดไป เพราะทั้งสองท่านคือคนที่หนูรักและคิดถึงมากที่สุดคะ”
ของขวัญวันเกิด
“ตอนนี้หนูมีครบทุกอย่างแล้วคะ ไม่อยากได้อะไรแล้ว (ถ้าคิดได้ก็จะซื้อเพิ่มคะ 555) คือ วันที่ 8 ส.ค.นี้ หนูก็จะอายุครบ 24 ปีแล้ว ของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดถ้านับเป็นสิ่งที่จับต้องได้ก็คงจะเป็นเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 เหรียญนี้คะ ไม่ใช่แค่ตัวหนูและครอบครัวนะคะ แต่หนูอยากมอบของขวัญชิ้นนี้ให้กับคนไทยทั้งประเทศ หนูขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้หนู และอยากจะบอกกับทุกคนว่าท่ามกลางสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เราต้องเจอกับความยากลำบาก หนูอยากจะบอกว่าขอให้ทุกคนสู้ให้ถึงที่สุด อย่ายอมแพ้ อย่าถอดใจ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ เราจะผ่านมันไปได้คะ สู้ๆ นะคะ หนูเป็นกำลังใจให้ทุกคนคะ”
ประวัติน้องเทนนิส
ชื่อ : เรือกาอากศตรีหญิง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ
ชื่อ : น้องเทนนิส
เกิด : วันที่ 8 ส.ค.2540
บิดา-มารดา : นายสิริชัย-นางวันทนา (เสียชีวิต), พี่สาว เรืออากาศเอกหญิง กรวิกา วงศ์พัฒนกิจ (โบว์ลิ่ง), พี่ชาย นายศราวิน วงศ์พัฒนกิจ (เบสบอล)
การศึกษา : ชั้นประถมศึกษา รร.อนุบาลสุราษฎร์ธานี, มัธยมศึกษาตอนต้น รร.สุราษฎร์พิทยา จ.สุราษฎร์ธานี, มัธยมศึกษาตอนปลายจาก รร.เทพลีลา กรุงเทพฯ, ปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท ที่ ม.กรุงเทพธนบุรี
ผลานระดับนานาชาติ : 32 ทอง 6 เงิน 7 ทองแดง, แชมป์โลก 2 สมัย (รุ่น 45 กก.หญิง ปี 2015 ที่รัสเซีย, รุ่น 49 กก.หญิง ปี 2019 ที่อังกฤษ), เหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครรีโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล, เหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 (2021) ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
วอน อ่อนวงค์
