ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) แจ้งว่า ตามการร้องเรียนผ่านสื่อออนไลน์ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ลูกชายหล่า บัสสัมทัวร์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.64 กรณีผู้ตรวจการขนส่งสำนักงานขนส่งจังหวัดร้อยเอ็ดได้เปรียบเทียบปรับรถโดยสารไม่ประจำทางคันหมายเลขทะเบียน 30-0180 ยโสธร ข้อหาอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง เป็นเงินจำนวน 300 บาท โดยมีข้อความว่า “เกมส์ จนได้ ขนาดว่าไปรับผู้ป่วยกะยังบ่รอด จับกะเพิ่งสถานการณ์แน โพดไปดอก 300 มันก็บ่ได้หลายอิหยังดอก แต่มันสิดีกว่านี้ถ้าละเว้นแน” นั้น

สำนักงานขนส่งจังหวัดร้อยเอ็ด ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ผู้ตรวจการขนส่งสำนักงานขนส่งจังหวัดร้อยเอ็ดได้ลงพื้นที่ตั้งจุดตรวจการขนส่งเพื่อกวดขันปราบปรามผู้ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกและกฎหมายรถยนต์เมื่อวันที่ 5 ส.ค.64 บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 202 ช่วงเกษตรวิสัย-สุวรรณภูมิ ต.หินกอง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พบรถโดยสารไม่ประจำทางคันหมายเลขทะเบียน 30-0180 ยโสธร

เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจสอบจากการตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าว พบมีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง กล่าวคือติดตั้งวัสดุบดบังแผ่นป้ายทะเบียนติดแตรลมติดตั้งลำโพงนอกตัวรถและติดไฟสปอตไลต์หน้ารถ จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ นายศักดิ์ธัช พจน์ชนะชัย ทราบ ซึ่งนายศักดิ์ธัช ได้แจ้งว่าจะนำรถคันดังกล่าวไปรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่กรุงเทพมหานคร โดยไม่มีเอกสารหลักฐานใดแสดงให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะนำรถไปใช้รับผู้ป่วยโควิด-19 จริง ตามข้อกล่าวอ้าง ประกอบกับในขณะตรวจสอบไม่พบผู้โดยสารอยู่บนรถและไม่มีรถของหน่วยกู้ชีพกู้ภัยวิ่งมาด้วย 

อย่างไรก็ตามเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถโดยสาร และเจ้าหน้าที่ไม่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากตรวจพบการกระทำความผิดแล้ว จึงได้พิจารณาเปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 300 บาท ทั้งนี้​ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก​ พ.ศ. 2522 ได้กำหนดให้รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารจะต้องมีสภาพมั่งคงแข็งแรง มีอุปกรณ์และส่วนควบถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด​ หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมอุปกรณ์ส่วนควบของตัวรถไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด​ เช่น​ ติดตั้งสปอตไลต์ แตรลม​ ลำโพงออกนอกตัวรถ​ เป็นต้น​ อาจก่อให้เกิดอันตรายกับรถคันอื่นที่ใช้ทางร่วมกันบนท้องถนนและเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุได้