มหาเศรษฐีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ออกแถลงการณ์ประณามเจ้าหน้าที่สืบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ที่บุกเข้าค้นบ้านพักตากอากาศ ‘มาร์-อะ-ลาโก’ ของเขาในปาล์มบีช รัฐฟลอริดา โดยไม่มีการบอกกล่าว ซ้ำยังงัดแงะตู้นิรภัยของเขาอีกด้วย
แหล่งข่าวใกล้ชิดให้ข้อมูลว่า การบุกค้นครั้งนี้เกี่ยวข้องการเอกสารลับที่ ทรัมป์ โดนกล่าวหาว่านำออกมาจากทำเนียบขาวและเก็บไว้ที่บ้านพักหลังดังกล่าวตั้งแต่เดือน ม.ค. 2564
ทรัมป์ กล่าวตำหนิในแถลงการณ์ยาวเหยียดของเขาว่าการค้นบ้านพักของเขาในครั้งนี้มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง แต่เขาไม่ได้ระบุรายละเอียดของเหตุจูงใจที่อ้างถึง
ทรัมป์ เปรียบเทียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็น ‘ยุคมืด’ ของสหรัฐ เมื่อบ้านพักที่สวยงามของเขาโดนยึด ปิดล้อมและบุกรุกโดยเจ้าหน้าที่เอฟบีไอกลุ่มใหญ่ ทั้งที่เขาได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐมาโดยตลอด การบุกค้นบ้านโดยที่ไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าแบบนี้ ถือเป็นเรื่องไม่จำเป็นและไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการงัดแงะตู้นิรภัยของเขาอีกด้วย
ทนายความ คริสตินา บ็อบบ์ ซึ่งอ้างว่า เธอทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ ทรัมป์ ระหว่างการค้นบ้านในวันจันทร์ที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่า ทรัมป์ และทีมงานให้ความร่วมมือกับเอฟบีไอและเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมมาโดยตลอด ทั้งยังยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงที่ฝ่ายทางการได้บุกค้นบ้านและยึดเอกสารต่าง ๆ โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบ
แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสของทางรัฐบาลให้ข้อมูลว่า เอฟบีไอใช้เวลาค้นบ้านของ ทรัมป์ เกือบทั้งวัน และยืนยันว่า หมายค้นในครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับเอกสารลับจากสำนักจดหมายเหตุและบันทึกแห่งชาติ ซึ่งจะต้องส่งคืนหน่วยงานที่รับผิดชอบหลังจาก ทรัมป์ พ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดี แต่เขากลับส่งคืนไม่หมด
ตามข้อมูลของสำนักจดหมายเหตุฯ ในปีนี้ ทรัมป์ ได้คืนเอกสารที่ถูกนำออกจากทำเนียบขาวอย่าง ‘ไม่เหมาะสม’ ไปแล้ว 15 กล่อง เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สำนักจดหมายเหตุฯ ยังคงร้องขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรมเพื่อตรวจสอบว่า ทรัมป์ ยังคงมีเอกสารลับหลงเหลืออยู่ในความครอบครองหรือไม่ ซึ่งเข้าข่ายละเมิดกฎหมายสหรัฐ
แหล่งข่าว : nbcnews.com
เครดิตภาพ : REUTERS