“เมสซี-บาร์ซา” จบกันแล้วจริงหรือ?

บาร์เซโลนา เขย่าวงการลูกหนังจนสั่นสะเทือนอีกครั้ง หลังป่าวประกาศชนิดช็อกความรู้สึกสาวก “เจ้าบุญทุ่ม” ว่า ลิโอเนล เมสซี กำลังจะโบกมือลาถิ่น คัมป์ นู ในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังไม่สามารถต่อสัญญาฉบับใหม่ได้สำเร็จ

อย่างที่ทราบกันว่า เมสซี กลายเป็นนักเตะไร้สังกัดอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังหมดสัญญากับ บาร์เซโลนา ในวันที่ 30 มิ.ย. อย่างไรก็ตาม หัวหอกวัย 34 ปี ยังคงได้รับความคาดหมายว่า จะต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปอีก 5 ปี หลังยอมลดค่าเหนื่อยลงจากเดิมถึง 50 เปอร์เซ็นต์

กระทั่งล่าสุดคดีกลับพลิกแบบวินาศสันตะโร เมื่อ “เจ้าบุญทุ่ม” ยืนยันว่า พวกเขาจำใจต้องปล่อยให้ เมสซี ย้ายออกจากทีมทั้งที่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่กันได้แล้ว เนื่องจากติดปัญหาเชิงโครงสร้างของสัญญา และทางด้านการเงินตามกฏใหม่ของฟุตบอลลีกสเปน

ขอขยายให้ชัดอีกนิดสำหรับกฏใหม่ที่ บาร์ซา อ้างถึง มันคือกฏควบคุมทางการเงินที่รวมไปถึงการกำหนด “Salary cap” หรือ “การเพดานค่าจ้าง” ที่ ลา ลีกา เพิ่งนำมาบังคับใช้ในฤดูกาลนี้นั่นเอง

กฏดังกล่าวส่งผลกระทบกับ ทีมเลือดหมูน้ำเงิน ที่สูญเสียรายได้ไปมหาศาลในช่วงที่เกิดการระบาดครั้งใหญ่ของ “โควิด-19” อย่างรุนแรง เนื่องจากพวกเขาต้องหาทางลดเพดานค่าเหนื่อยของนักเตะจากที่เคยสูงถึง 387 ล้านยูโรให้ลงมาเหลือเหลือเพียง 145-150 ล้านยูโรให้ได้เพื่อลงทะเบียนนักเตะใหม่ และต่อสัญญากับ เมสซี

ทว่าสุดท้าย บาร์เซโลนา ก็ทำไม่สำเร็จ หลังไม่สามารถโละนักเตะส่วนเกินแถมยังค่าเหนื่อยแพงระยับอย่าง ฟิลิปเป คูตินโญ หรือ แม้กระทั่ง อองตวน กรีซมันน์ หรือ อุสมาน เดมเบเล ออกจากทีมได้จนทำให้ต้องตัดใจยอมปล่อยมือจาก เมสซี ที่ไม่สามารถเซ็นสัญญาฉบับใหม่ได้เนื่องจากติดปัญหาเรื่อง Salary cap ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวระหว่าง บาร์เซโลนา และเมสซี น่าจะยังไม่จบลงแค่นี้ เพราะสื่อบางสำนักอาทิ ดิ แอธเลติก เชื่อว่า การออกมาประกาศแยกทางกับ เมสซี น่าจะเพียงการเดินหมากเพื่อกดดันให้ ลา ลีกา ยอมโอนอ่อนผ่อนปรน และปรับเปลี่ยนกฏเกณฑ์บางอย่างเพื่อเปิดทางให้บาร์ซา สามารถรั้ง หัวหอกวัย 34 ปี เอาไว้กับทีมได้ต่อไป

อย่างที่ทราบว่า เมสซี เป็นเมกะสตาร์ของ ลา ลีกา และเป็นแม่เหล็กที่ดูดให้แฟนบอลทั่วโลกติดตามชมฟุตบอลลีกสูงสุดของสเปน ซึ่งหากว่ากันตามตรงคงไม่ใครอยากจะกดรีโมทเปลี่ยนช่องมาดูมากนักหากไม่ใช่เกมของทีมระดับบิ๊กทรีอย่าง แอตเลติโก มาดริด, รีล มาดริด และบาร์เซโลนา

ด้วยเหตุนี้การเสีย เมสซี ไปจึงย่อมต้องส่งผลต่อระดับความนิยมของ ลา ลีกา ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม หากสุดท้ายแล้ว ลา ลีกา ยังคงยึดมั่นใจจุดยืน และไม่ยอมผ่อนปรนให้ บาร์เซโลนา จนทำให้ เมสซี ต้องจบกับต้นสังกัดแห่งเดียวในชีวิตค้าแข้ง 21 ปีของเขาจริง คำตอบถามต่อไปที่ผุดขึ้นมาในหัวแฟนบอลแทบทุกคนก็คือ “เมสซี จะไปลงเอยกับใคร”

สำหรับสโมสรที่ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ที่จะได้ตัว เมสซี ไปเชยชมในเวลานี้คือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เศรษฐีใหญ่แดนน้ำหอม ที่มีสถานะการเงินแข็งแกร่งพอจะแบกรับภาระค่าเหนื่อยก้อนโตของ หัวหอกเลือดฟ้าขาว ได้อย่างไม่มีปัญหา

เบตแฟร์ บริษัทรับพนันถูกกฏหมายของอังกฤษ ออกราคาว่า เมสซี จะไปลงเอยกับ เปแอสเช เอาไว้ที่ 10/11 (แทง 11 จ่าย 10 ไม่รวมทุม) เท่านั้น ซึ่งหากเป็นเรื่องจริงการได้เห็นแนวรุกที่มีทั้ง เนย์มาร์, คีลิยัน เอ็มบัเป และเมสซี ก็ดูจะเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นไม่ใช่น้อย และน่าจะทำให้ความฝันในการหยิบถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ของ แซงต์ แชร์กแมง ขยับเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นไปอีกแน่นอน

ส่วนเต็ง 2 เป็น แมนฯ ซิตี ที่อัตราต่อรอง 21/10 ทว่า “เรือใบสีฟ้า” อาจจะต้องพยายามเล่นแร่แปรธาตุเยอะสักหน่อย หากหวังจะคว้า เมสซี เข้ารังจริง เพราะพวกเขาเพิ่งทุ่มเงิน 100 ล้านปอนด์ไปกับการเซ็นสัญญากับ แจ็ค กรีลิช แถมยังมีแผนจะงาบ แฮร์รี เคน มาเสริมคมอีกทั้งคน

มาถึงเต็ง 3 ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น บาร์เซโลนา ที่อัตราต่อรอง 10/3 ขยับไปที่เต็ง 4 คือสโมสรใดสโมสรหนึ่งในเมเจอร์ ลีก สหรัฐ ที่ เมสซี เคยเปรยเอาไว้ว่า อยากจะไปสัมผัสประสบการณ์ลูกหนังแดนลุงแซมสักครั้งก่อนแขวนสตั๊ด ที่ราคา 11/1

ลำดับ 5 เป็น อินเตอร์ มิลาน แชมป์กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ที่ราคา 12/1 โดยมี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามมาเป็นเต็ง 6 ที่ราคา 18/1 และเต็ง 7 เป็น นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ อดีตต้นสังกัดในวัยเยาว์ของ เมสซี ที่อัตราต่อรอง 20/1.

ภาพ gettyimages