เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 22 ก.ค. ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย เข้าร่วมประชุมการพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในวันสุดท้าย ว่าช่วงที่ผ่านมา แม้ตนไม่ได้เข้าร่วม แต่นอนดูอยู่ที่บ้าน ขณะที่ท่าทีในการโหวตนั้น ระหว่างการอภิปรายของผู้อภิปรายได้พาดพิงถึงตนหลายคน ไม่ได้พาดพิงในทิศทางที่เสีย แต่ถ้านั่งในสภาคงลุกขึ้นพูด แต่ไม่มีโอกาสเนื่องจาก 2 วันที่ผ่านมา ไม่สบายจากการฉีดวัคซีน ส่วนแนวโน้มจะมีโอกาสได้เวลาร่วมอภิปรายหรือไม่นั้น ขณะนี้ผู้ร่วมอภิปรายล็อกเวลาไว้หมดแล้ว โดยมารยาทเราไม่ได้ยื่นก็จะเป็นการเบียดเบียนเวลาท่านอื่น จึงตัดสินใจไม่อภิปรายดีกว่า เนื่องจากไม่ได้ประสานมาก่อนด้วย
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านรอให้มีการประสานมาตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. จะมีการแบ่งเวลาให้ตรงนี้ผิดพลาดตรงไหน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนมอบหมายให้ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีนายชื่อและนายทะเบียนพรรคเศรษฐกิจไทย เป็นคนประสาน แต่นายบุญสิงห์ก็ไม่สบาย จึงเสียดายโอกาส เพราะพี่น้องประชาชนก็ฝากมาจำนวนมาก ส่วนที่ถูกพาดพิงจะลุกขึ้นชี้แจงหรือไม่ จะดูโอกาสวันนี้ แต่ดูเวลาแล้วคงไม่ได้ จะไปแย่งซีนไม่ได้ตนไม่ได้หิวแสงเหมือนคนบางคน
เมื่อถามว่า วันนี้เข้าสภาแล้วจะมีโอกาสพูดคุยพรรคเล็กหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่รู้จะคุยอะไร ไม่มี
เมื่อถามย้ำว่า คิดอย่างไรที่พรรคเล็กพูดคุยกับนายกฯ และนายกฯ บอกให้ช่วยโหวตเห็นชอบรัฐมนตรีทั้งหมด ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนตัวตนมีอุดมการณ์ทางการเมืองและทำการเมือง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบ้านเพื่อเมืองและเพื่อประชาชน หากทำการเมืองหวังเพื่อหวังผลประโยชน์ระยะสั้นๆ ตนไม่ร่วมเสวนาให้เสียเวลาด้วย
เมื่อถามว่า แสดงว่าหลังจากนี้ปิดประตูไม่พูดคุยกับพักเล็กอีกแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเห็นท่าทีมานานพอสมควร และไม่เคยคุย ส่วนวันนั้นที่ไปนั่งคุยกับนายอารี ไกรนรา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ และนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และในฐานะแกนนำกลุ่ม 16 ก็มานั่งใกล้ๆ แล้วเอาไปพูดว่า ตนชวนไปล้มคนนั้นคนนี้ไม่จริง เอาตนไปหากินมากกว่า
“นอกจากผมจะไม่คุยแล้ว นักการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์ผมจะจัดการด้วย ตลอดเวลาก็เอาผมไปพูด ไปนัดทานข้าวกับใครก็เอาผมไปพูดไปอ้าง ซึ่งผมมีอุดมการณ์ของตัวเองอยู่แล้ว พรรคเศรษฐกิจไทยเรามีจุดยืนอยู่แล้ว แต่คุณเอาพรรคเศรษฐกิจไทยไปทำมาหากินผมไม่เอาด้วย ซึ่งคนที่ไม่มีอุดมการณ์ที่ผมหมายถึงก็เกือบทั้งนั้น พรรคพวกนี้ 3-4 ปีที่ผ่านมา รับเงินเดือนจากใคร ก็ให้จำไว้ ผมมีลายเซ็นทุกอย่าง รับเกิน 3,000 บาท ระวังไว้เถอะ”
เมื่อถามว่า มีพรรคเล็กบางส่วนที่จะไม่ยกมือโหวตให้นายกฯ และ 10 รัฐมนตรีจะดึงมาร่วมกับพรรคเศรษฐกิจไทย ด้วยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราพูดมาตลอดว่าพรรคเศรษฐกิจไทยมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าเราไปด้วยกัน หากใครไม่ไปก็แยกกันเดินแล้วไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน ตนมีอะไรก็เสียบหมดไม่เลี้ยงใครทั้งนั้น
เมื่อถามว่า แสดงว่าปิดประตูพูดคุยและไม่เป็นพันธมิตรที่ดีกับกลุ่ม 16 แล้วใช่หรือไม่ เพราะทำให้เสียหาย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ เอาเฉพาะพรรคตน หากพรรคเศรษฐกิจไทยใครแหกกติกาก็ไม่เลี้ยง ตนทำการเมืองไม่ชอบเป็นโสเภณีทางการเมือง
เมื่อถามน้ำว่า ถือว่าแตกหักกันเลยใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนยืนยันด้วยคำพูดไปแล้ว เอาเราไปหากินแบบนี้ไม่เอา แสดงว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา เราเลี้ยงไม่ดี นับตั้งแต่วันแรกคุณมาอย่างไร เอาอะไรจากตนไปก็ไปคิดให้ดีก็แล้วกัน ส่วนทิศทางการโหวตของพรรคเศรษฐกิจไทยนั้น พรุ่งนี้ (23 ก.ค.) พรรคจะมีการประชุมหารือกัน
เมื่อถามว่า จะมีรัฐมนตรีคนไหนหลุดจากเก้าอี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่จุดยืนของพรรคเศรษฐกิจไทยมีจุดยืนชัดเจนว่าใครไม่ดีเราก็เชือด ซึ่งเกือบทั้งหมดที่ไม่ดี เศรษฐกิจไทยเราเดินตามเสียงส่วนใหญ่ของฝ่านค้าน ส่วนทิศทางโหวตให้นายกฯ นั้น ตนก็ทำเหมือนฝ่ายค้าน
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าจะเว้นแค่ พล.อ.ประวิตร ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า บุญคุณต้องทดแทน ซึ่งตนพูดมาตลอด และต้องดูว่า พล.อ.ประวิตร ถูกอภิปรายเป็นอย่างไร แต่ยังยืนยันเหมือนเดิมที่ได้ทำงานร่วมกับ พล.อ.ประวิตร มากว่า 4 ปี ทั้งเรื่องการเมืองและการช่วยเหลือประชาชน ตนเห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า พล.อ.ประวิตร เป็นคนอย่างไร
เมื่อถามว่า ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ว่าจะโหวตให้ พล.อ.ประวิตร แต่ไม่โหวตให้นายกฯ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องรอการประชุมพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม การโหวตให้ พล.อ.ประวิตร จะกระทบรัฐบาลหรือไม่นั้น เป็นคนละเรื่องกัน ต้องดูสาระสำคัญอย่าเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าบุญต้องทดแทนแค้นจะชำระในศึกอภิปรายครั้งนี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ความแค้นผมจำนาน”
เมื่อถามว่า ที่บอกว่ามีใบเสร็จเป็นของกลุ่ม 16 หรือกลุ่มไหน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคเล็กทั้งหมด บริวารตนก็เยอะ หลายคนแค้นอยากยื่น ป.ป.ช.ด้วยตัวเอง ตนก็ไม่ห้าม
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าราคากล้วยในศึกอภิปรายครั้งนี้ไม่น้อย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ผมเป็นนักการเมือง พูดตรงไปตรงมา รอบนี้ไม่ใช้กล้วยอย่างเดียว มีการแลกเปลี่ยนยศฐาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่งสำคัญของลูกหลาน มีเยอะ แล้วประเทศชาติเดินหน้าได้อย่างไร เลือกไปแล้วก็ที แต่เรื่องลูกเรื่องหลานอำนาจหน้าที่ คนมาเล่าให้ฟัง ผมก็บอกว่าไม่สบายไม่อยากรับรู้”
เมื่อถามว่ากล้วยที่มาต่อรองประมาณกี่กิโลกรัม ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็มีอยู่แล้ว จำนวนมากแต่ละบุคคล แต่ละคนที่ถูกเลือกเข้าไปแจกตำแหน่งหน้าที่แจกทุกอย่าง ตนได้ยินมา แต่ไม่ได้เห็น
เมื่อถามถึงกระแสข่าวล้ม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า นี่เป็นอีกเรื่องที่ตนไม่สบายใจ ได้ยินกับหูว่ามีข่าวว่าตนจะไปล้ม รมว.มหาดไทย คนที่ทำนั้นไม่พูด แต่คนอย่างตนไม่ทำ ถ้าจะทำจะพูด เพราะเปิดหน้าชกขนาดนี้ ไม่เกรงใจใครแล้ว แล้วเป็นอย่างนี้ รมว.มหาดไทย จะเคืองตนอีกหรือไม่ เมื่อถามย้ำว่า อาจจะมีใครที่แอบอ้างชื่อ ร.อ.ธรรมนัส ไปใช้ เพื่อเป็นเกมการเมืองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวย้อนว่า “เอาไปปั่นหุ้นไง” ทั้งนี้ไม่คิดว่าตัวเองจะมีราคาเยอะขนาดนี้ที่จะให้คนนำไปปั่นหุ้นได้
เมื่อถามว่า พอจะรู้ตัวคนที่ปั่นหุ้นหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่ารู้แล้ว จะจัดการโดยจะเชือดไปที่ ป.ป.ช. สำหรับคนที่ปั่นตนมีหลักฐาน นอกจากนี้ คนที่เซ็นรับไว้ให้ระวัง และอาจจะมีไลน์หลุดเรื่องนี้ อาจจะหลุดคืนนี้ (22 ก.ค.) เลยก็ได้ แล้วจะหนาว เพราะเราจะสั่งสอนคนที่ทำตัวไม่มีอุดมการณ์ทางการเมือง ทั้งที่ประชาชนเลือกมาแต่ไม่มีอุดมการณ์ เมื่อถามว่า กลัวหรือไม่หากปล่อยไลน์หลุดออกไปแล้วจะมีการตอบโต้กลับ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ก็ไม่ได้หลุดมาจากผม หลุดมาจากใครก็ไม่รู้
เมื่อถามว่า ในวันที่ 23 ก.ค. ยืนยันจะเดินทางมาโหวตได้ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส พรรคเศรษฐกิจไทย มาโหวตครบทุกคน
เมื่อถามว่า ช่วงเวลาหลังการอภิปรายเหมาะสมหรือไม่ที่จะปรับ ครม. ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เท่าที่นอนฟังการอภิปรายที่บ้าน เที่ยวนี้สาหัสกว่า 3 ปีที่ผ่านมา เพราะมีทุกเรื่อง เรื่องที่ไม่น่าเกิดก็มี ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่แย่มากในสภา ไม่มีควรเป็นทั้ง ส.ส.และรัฐมนตรี ถ้าเป็นแบบนี้ประชาชนจะฝากความหวังไว้กับใคร
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าจากกรณี ร.อ.ธรรมนัส เคยมีสัญญาใจกับกลุ่ม 16 ว่าจะมีการลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปในทิศทางเดียวกัน แต่ล่าสุดกลุ่ม 16 มีทีท่าว่า จะโหวตไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 11 คน ภายหลังจากที่ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงทำให้มีท่าทีที่เปลี่ยนไป ขณะนี้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล ได้กำชับให้โหวตไว้วางใจรัฐมนตรีทุกคน โดยเฉพาะนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่มีข่าวว่าพรรคเล็กจะโหวตไม่ไว้วางใจ โดยให้เหตุผลว่านายสันติเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จะให้ได้คะแนนน้อยกว่าคนอื่นได้อย่างไร อีกทั้งหากพรรคเล็กไม่ยอม จะขับไล่พ้นจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
โดยสถานการณ์ล่าสุด เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส ทราบว่ากลุ่มพรรคเล็กหักหลัง จึงไม่พอใจอย่างยิ่ง และให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า ใน 3 ปีที่ผ่านมา ใครที่มาเซ็นรับเงินเป็นรายเดือนมากกว่า 3,000 บาท แน่นอนซึ่งเรื่องตรงนี้จะมีคนไปยื่นกับ ป.ป.ช.เพราะถือเข้าข่ายผิดกฎหมาย และขอให้ระวังที่จะมีไลน์หลุดออกมา
ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ได้มีไลน์หลุดออกมา มีเนื้อหาและภาพที่ระบุให้เห็นว่ามีรายชื่อ ส.ส.พรรคเล็ก เซ็นรับเงินเดือนประจำเดือนมี.ค.63 หลายคน และมีภาพหลักฐานการโอนเงินไปยังบุคคลปลายทางชัดเจน โดยจากการสอบถามพบว่าเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท/เดือน