หลังจาก สภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีมติจัดสรรค์โควตาเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2023-24 ให้สโมสรไทย แบ่ง 1+1 เป็น 2 ฤดูกาล (2021-22, 2022-23) ทำให้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3-4 ไทยลีก 2021-22 โดนดึงโควตาบอลเอเชียกลับไป ทั้งที่เดิมทีประกาศจะให้โควตาฤดูกาลดังกล่าว 2+2 การตัดสินใจนี้ บริษัท ไทยลีก จำกัด โยนให้สโมสรไทยลีก ลงมติโหวตกัน โดย 10 จาก 16 สโมสร โหวตให้แบ่ง 1+1
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.ค.65 ทั้ง 2 ทีม ที่โดนริบโควตา เดินหน้าขอให้ทบทวนมติดังกล่าว โดย “บิ๊กเป้” นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด พร้อมด้วย นายสุรเดช อนันทพงศ์ ผู้จัดการทีม “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก และนายปราการ สมบุญยิ่ง ผู้ดูแลด้านกฎหมายของ ทรู แบงค็อก ได้ยื่นหนังสือเพื่อขออุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ รวมถึงได้ยื่นต่อ “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะนายทะเบียนของพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556
นายรณฤทธิ์ กล่าวว่า การยื่นอุทธรณ์ครั้งนี้เป็นการทำตามสิทธิของสโมสร อยากให้การบริหารจัดการโปร่งใสและเป็นมาตรฐาน หวังว่าจะมีการพิจารณาแล้วหาทางออกอื่นและออกคำสั่งใหม่ โดยการยื่นให้กับผู้ว่าการ กกท.นั้น เนื่องจากเป็นนายทะเบียนที่จะต้องดูและผู้ที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556 หวังว่าจะตรวจสอบเรื่องนี้และยับยั้งคำสั่งดังกล่าว ยังเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะหาทางออกได้ หวังว่าทุกอย่างจะจบลงตรงนี้และไม่ต้องไปถึงขั้นตอนต่อไปในการฟ้องศาลปกครอง
นายสุรเดช จาก บียู กล่าวว่า การที่ถูกริบสิทธิไปแบบนี้ส่งผลเสียหายต่อสโมสรมูลค่ามหาศาล เพราะในบางผู้สนับสนุนจะมีเงินมอบให้พิเศษอยู่แล้วถ้าหากคว้าสิทธิไปเล่นในถ้วยเอเชียได้ รวมถึงเสียหายด้านอื่นๆ อีกด้วย
นายปราการ กล่าวว่า จากมติของสภากรรมการฯ ก็ถือว่าเป็นคำสั่งทางปกครองแล้ว ทั้ง 2 ทีมที่ถูกตัดสิทธิจึงต้องใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์ หลังจากนี้ทางสมาคมฯ ก็จะต้องพิจารณาภายใน 30 วัน เนื้อหาที่โต้แย้งในหนังสืออุทธรณ์คือทางสมาคมฯได้รับโควตาฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก จากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ซึ่งได้วางระเบียบโควตาของฟุตบอลถ้วยเอเชียชัดเจน ดังนั้นถือว่าสภากรรมการฯ ขัดต่อหลักเกณฑ์ของการจัดสรรโควตา ส่วน การเรียกร้องไปยัง กกท.หรือฟ้องต่อศาลปกครองนั้น ไม่ถือว่าเป็นการแทรกแซงการทำงานของสมาคมฯ เป็นสิทธิของทางสโมสรที่จะเข้าถึงฝ่ายยุติธรรมได้เมื่อไม่ได้รับความยุติธรรม