“เดอะ ซิตี ฟุตบอล กรุ๊ป” (ซีเอฟจี) กลุ่มทุนเจ้าของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดินหน้าเทคโอเวอร์สโมสรฟุตบอลมาไว้ในครอบครองเป็นทีมที่ 11 หลังควักเงิน 11.5 ล้านปอนด์ (ราว 493 ล้านบาท) ซื้อหุ้นของ ปาแลร์โม ทีมในศึกกัลโช เซเรีย บี อิตาลี และเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับ ปาแลร์โม เคยลงเล่นถ้วยยุโรปครั้งหลังสุดในถ้วย ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เมื่อฤดูกาล 2010-11 อย่างไรก็ตาม พวกเขามีปัญหาทางการเงิน และถูกประกาศให้ล้มละลายในปี 2019 และต้องไปเริ่มต้นใหม่ในลีกระดับดิวิชั่น 4 แต่ทีมก็เลื่อนชั้นกลับมาจนขึ้นมาอยู่ใน เซเรีย บี หรือเทียบเท่าดิวิชั่น 2 แล้วในเวลานี้ โดย “ซีเอฟจี” เปิดการเจรจาเพื่อเทคโอเวอร์ทีมแห่งถิ่นสตาดิโอ เรนโซ บาร์เบรา มาตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจะมีการยืนยันการเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

เฟร์ราน ซอเรียโน ซีอีโอของ “ซีเอฟจี” เผยว่า “ปาแลร์โม เป็นทีมที่ยอดเยี่ยม และมีประวัติศาสตร์ และมีอัตลักษณ์ที่แข็งแกร่งและน่าภาคภูมิใจ และหน้าที่ของเราคือการใช้ประสบการณ์และความรู้ของเรา เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งต่าง ๆ ที่จะทำให้สโมสรมีความพิเศษ และพัฒนาไปข้างหน้าอย่างมั่นคงทั้งในและนอกสนาม”

ทั้งนี้ นอกจาก “เรือใบสีฟ้า” แล้ว “ซีเอฟจี” ยังเป็นเจ้าของสโมสร ทรัวส์ (ฝรั่งเศส), คิโรนา (สเปน), ลอมเมล (เบลเยียม), นิวยอร์ก ซิตี (สหรัฐอเมริกา), มุมไบ ซิตี (อินเดีย), เมลเบิร์น ซิตี (ออสเตรเลีย), โยโกฮามา เอฟ มารินอส (ญี่ปุ่น), เสฉวน จิวหนิว (จีน) และ คลับ แอตเลติโก ตอร์เก (อุรุกวัย) รวมแล้วพวกเขาเป็นเจ้าของถึง 11 สโมสร แถมยังเป็นพาร์ทเนอร์กับ คลับ โบลิวาร์ ทีมในโบลิเวีย แถมยังมีข่าวว่ากำลังเจรจาเทคโอเวอร์ บาเฮีย ทีมในลีกบราซิลอีกด้วย