บริษัท เวียตเจ็ท เอวิเอชั่น จอยท์ สต็อค (HOSE: VJC) เปิดเผยรายงานงบการเงินไตรมาสที่ 2 และช่วงครึ่งปีแรกของปี 64 ว่า ไตรมาสที่ 2 ของปี 64 สายการบินเวียตเจ็ท มีผลประกอบการด้านการขนส่งทางอากาศอยู่ที่ประมาณ 129.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นผลจากความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย.64 และสายการบินฯ ได้ปรับเพิ่มบริการเที่ยวบินขนส่งสินค้าทางอากาศอย่างต่อเนื่อง แม้เวียดนามจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 4 ในไตรมาสนี้ก็ตาม
สำหรับรายได้รวมครึ่งปีแรกของสายการบินฯ และรายได้รวมหลังหักภาษีอยู่ที่ 365 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท และ 5.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 182 ล้านบาท ตามลำดับ ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากบริการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 253 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,349 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหลังหักภาษีอยู่ที่ 5.97แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 19.7 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเวียตเจ็ท ได้ตัดสินใจลงทุนด้านการเงินและโครงการต่างๆ โดยมุ่งขยายฐานธุรกิจเพื่อสนับสนุนธุรกิจการขนส่งทางอากาศ พร้อมๆ กับการเพิ่มประสิทธิภาพทุนในช่วงการชะลอตัวชั่วคราวของอุตสาหกรรมการบิน ทั้งนี้เวียตเจ็ทมีรายได้จากการลงทุนทางการเงินและโครงการต่าง ๆ รวมมากกว่า 76.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,524 ล้านบาท
สิ้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ทรัพย์สินรวมของเวียตเจ็ทมีมูลค่าถึง 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.27 หมื่นล้านบาท โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.73 ซึ่งถือว่าอยู่ในอัตราต่ำ ขณะที่อัตราส่วนสภาพคล่องยังคงเดิมอยู่ที่ 1.5 ซึ่งถือว่าอยู่ในอัตราส่วนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่ดีในอุตสาหกรรมการบินขณะนี้ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี เวียตเจ็ทได้ให้บริการผู้โดยสารกว่า 4.8 ล้านคน ในกว่า 34,000 เที่ยวบิน โดยสายการบินฯ ได้มุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพด้านการปฏิบัติการ และเพิ่มการบริการขนส่งสินค้าทางอากาศกว่า 37,000 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 40-45% เมื่อเทียบจากปีก่อน ขณะเดียวกัน เวียตเจ็ทยังคงให้บริการอย่างต่อเนื่องสำหรับเที่ยวบินรับส่งผู้โดยสารกลับประเทศ
นอกจากนี้เวียตเจ็ทยังมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 โดยร่วมกับพันธมิตรด้านกลยุทธ์ในการร่วมบริจาคสมทบทุนแก่กองทุนวัคซีนแห่งชาติ การมอบรถพยาบาลแก่หน่วยงานสาธารณสุขภายในพื้นที่ การสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับหน่วยรักษาพยาบาลผู้ป่วยขั้นวิกฤต (ICU) และการให้บริการขนส่งบุคลากรและอุปกรณ์ทางการแพทย์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมทั้งการจัดตั้งครัวการกุศลเพื่อแจกจ่ายอาหารให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้เวียตเจ็ทยังคงดำเนินกลยุทธ์ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยมุ่งมั่นผลักดันนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ ทั้งในด้านการบริการและการปฏิบัติการให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลทั้งหมด เพิ่มประสิทธิภาพของต้นทุนต่อชั่วโมงบิน และขยายฐานธุรกิจเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และคุณภาพการให้บริการต่อไป
