สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ออกมายืนยันว่า ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ในช่วงปลายปีนี้ จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่จะมีการใช้เทคโนโลยีกึ่งอัตโนมัติ มาเป็นตัวช่วยเพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำในการตัดสินจังหวะล้ำหน้า หลังจากการทดสอบระบบดังกล่าวในศึกฟีฟ่า อาหรับ คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ เมื่อปีที่แล้วประสบความสำเร็จด้วยดี
จานนี อินฟานติโน ประธาน ฟีฟ่า กล่าวว่า “เทคโนโลยีจับการล้ำหน้าแบบกึ่งอัตโนมัติ คือการปฏิวัติระบบ วีเออาร์ ซึ่งใช้การอย่างแพร่หลายทั่วโลก เทคโนโลยีนี้คือความสำเร็จสูงสุด อันเกิดจากการวิจัยและทดสอบอย่างทุ่มเทมาตลอด 3 ปี เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของ 2 ทีมที่ลงแข่งขัน รวมถึงนักเตะ และแฟนบอลที่จะมุ่งหน้าไปชมเกมฟุตบอลโลกที่กาตาร์ในช่วงปลายปีนี้ ฟีฟ่า มีความมุ่งมั่นที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาเกมฟุตบอลในทุกระดับ และการใช้เทคโนโลยีจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ คือหลักฐานอันชัดเจนของเรื่องนี้”
สำหรับเทคโนโลยีดังกล่าว จะใช้กล้อง 12 ตัวซึ่งติดตั้งอยู่ใต้หลังคาสนาม ตรวจจับลูกฟุตบอลซึ่งมีเซ็นเซอร์ฝังอยู่กลางลูก ซึ่งจะส่งข้อมูลไปยังห้องผู้ตัดสินวีเออาร์โดยละเอียดถึง 500 ครั้งต่อวินาที รวมถึงตรวจจับร่างกายของนักเตะ ซึ่งแต่ละคนจะมีจุดที่ใช้เป็นจุดอ้างอิงทั้งหมด 29 จุด แล้วนำมาคำนวนด้วยความเร็ว 50 ครั้งต่อวินาที เพื่อระบุตำแหน่งที่แน่นอนของทั้งลูกฟุตบอลและตัวนักเตะในสนาม ก่อนจะส่งสัญญาณไปที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินหากเกิดการล้ำหน้าขึ้น
นอกจากนี้ ฟีฟ่า ยังเผยอีกด้วยว่า การสื่อสารกับแฟนบอลในสนาม จะถูกพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยจะมีการใช้ภาพแอนิเมชั่น 3 มิติ แสดงบนจอยักษ์ภายในสนามและหน้าจอการถ่ายทอดสด เพื่อยืนยันการตัดสินจังหวะล้ำหน้าที่เกิดขึ้นด้วย