เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ซอยสีคาม ถนนนครไชยศรี พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ยื่นคำร้องฝากขังผ่านจอภาพครั้งแรก นายจิตริน พลาก้าน กับพวกรวม 29 คน (มีนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ผู้ต้องหาที่ 27) ในความผิดฐาน ร่วมกันพยายามข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เป็นเวลา 12 วัน นับตั้งเเต่วันที่ 3-14 ส.ค.64 เนื่องจากยังต้องสอบพยาน 6 ปาก เเละรอผลตรวจสอบรายนิ้วมือประวัติต้องโทษผู้ต้องหา จึงขออำนาจศาลฝากขัง
โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ตัวผู้ต้องหาที่เข้าร่วมชุมนุมคาร์ม็อบซึ่งมาร่วมชุมนุมเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และได้นำมาควบคุมไว้ที่ บช.ปส. ต่อมาวันที่ 2 ส.ค.64 ได้มีกลุ่มของผู้ต้องหาได้นัดรวมตัวกันที่หน้า บช.ปส. เพื่อมาชุมนุมและข่มขู่กดดันพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ บช.ปส. ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ บช.ปส. นั้น พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาไปยื่นคำร้องขอผัดฟ้องฝากขังต่อศาล จากนั้นศาลได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกันไปแล้ว
ตร.แจงจับ ‘ไผ่ดาวดิน-มวลชน32คน’ ชี้เป็นพื้นที่รพ.สนาม-สั่งยุติแล้วไม่ฟัง
แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังคงชุมนุมกดดันพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ให้คืนรถบรรทุก 6 ล้อและเครื่องขยายเสียงซึ่งเป็นของกลางในคดี จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามที่จะเข้าไปใน บช.ปส. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประกาศและสั่งให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยุติการชุมนุมจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำสีที่ได้เตรียมมาสาดใส่รั้วประตูของ บช.ปส. และจะเข้าไปใน บช.ปส. เพื่อจะเข้าไปเอารถบรรทุก 6 ล้อและเครื่องขยายเสียงของกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวเพื่อส่ง สน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
แต่เนื่องจากได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเดินทางเข้าไปยังที่ สน.ทุ่งสองห้อง เกรงว่าจะมีการปิดล้อมและกดดันให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาและอาจมีการก่อเหตุร้ายขึ้น จึงขอให้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปส่งที่ บก.ตชด. ภาค 1 จังหวัดปทุมธานี ซึ่งได้ขอไว้เป็นที่ทำการของพนักงานสอบสวนจึงแจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้ทราบ โดยผู้ต้องหาทั้ง 29 คน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เหตุเกิดที่บริเวณ หน้ากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 2 ส.ค. เวลาประมาณ 12.00 น.
โดยท้ายคำร้องระบุว่า หาก นายจตุภัทร์ หรือ ไผ่ ดาวดิน บุญภัทรรักษ์ ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108 เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับมีพฤติการณ์ที่จะกระทำความผิดโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ อีกทั้งผู้ต้องหามีแนวโน้มที่จะกระทำความผิดในลักษณะเติมต่อไปอีก ซึ่งการกระทำผู้ต้องหาเป็นการกระทำซ้ำๆ ต่างกรรมต่างวาระตามข้อกล่าวหาเดิมและหลายครั้งหลายครา กรณีมีเหตุอื่นอันเชื่อว่าหากอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันกับความผิดที่ถูกกล่าวหาอีก ซึ่งมีคดีที่ นายจตุภัทร์ หรือไผ่ ดาวดิน บุญภัทรรักษ์ ผู้ต้องหาก่อเหตุก่อนหน้าจํานวน 12 คดี ในพื้นที่ สน.ต่างๆ
นอกจากนี้วันเดียวกันยังมีสำนวนที่พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ยื่นฝากขังผ่านจอภาพผู้ต้องหาหญิงอีก 2 คน คือ น.ส.ชนาภา สิทธินววิช อายุ 24 ปี เเละ น.ส.รุ่งฤดี แก่งดาภา อายุ 20 ปี ในความผิด ร่วมกันพยายามข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายและร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จากการชุมนุมวันเดียวกัน