เมื่อเวลา 19.45. วันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลแพ่งได้ออกเอกสารแจกสื่อมวลชนระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะว่าในวันนี้ เวลา 11.00 น. บริษัท รีพอร์ตเตอร์โปรดักชั่น จำกัด กับพวกรวม 12 คน ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นคดีต่อศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่พ3618/2564 ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 29 ) ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 พร้อมยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในกรณีฉุกเฉิน โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้ระงับการบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าวและห้ามมิให้นำมาตรการคำสั่งหรือการกระทำใดๆ ที่สั่งการตามประกาศดังกล่าวมาใช้กับฝ่ายโจทก์ประชาชนและสื่อมวลชนไปจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีนี้นั้น
ศาลรับฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งนายกฯ ออกข้อกำหนดห้ามเสนอข่าวสร้างความหวาดกลัว
บัดนี้ศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พ 3618/2564 ได้ออกนั่งพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อกำหนดดังกล่าวไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองและกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีทางปกครองตามมาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 อันทำให้การฟ้องคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองทั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 194 บัญญัติว่า “ศาลยุติธรรมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวงเว้นแต่คดีที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลอื่น”
กรณีนี้จึงเห็นได้ว่า ศาลยุติธรรมเป็นศาลที่มีเขตอำนาจทั่วไป คดีจึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลนี้ ให้รับคำฟ้องสำเนาให้จำเลยให้โจทก์ทั้ง 12 นำส่งภายใน 7 วัน นับแต่วันนี้ส่งไม่ได้ให้แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน 15 วันนับแต่ส่งไม่ได้หากไม่ปฏิบัติถือว่าทิ้งฟ้อง แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (Coronavirus disease: COVID-19) ทวีความรุนแรง ในชั้นนี้จึงไม่อาจกำหนดวันนัดได้ หากสถานการณ์คลี่คลายศาลจะแจ้งให้โจทก์ทั้ง 12 มากำหนดวันนัดเพื่อส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
สำหรับคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษานั้น ศาลทำการไต่สวนแล้วเสร็จโดยเพื่อให้การพิจารณาสั่งคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ก่อนมีพิพากษาเป็นไปด้วยความรอบคอบ จึงเห็นควรให้นัดฟังคำสั่งวันที่ 6 ส.ค.64 เวลา 13.30 น.