บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 2 ส.ค.64 ผันผวนในแดนลบและบวก โดยตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆกระตุ้นการลงทุน และยังถูกกดดันจากความกังวลตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดรายวัน การขยายระยะเวลาและมาตรการล็อกดาวน์ และนักลงทุนบางส่วนรอติดตามผลการประชุมของนโยบายการเงิน (กนง.) ว่ายังคงอัตราดอกเบี้ยตามเดิมหรือไม่ ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,525.11จุด เพิ่มขึ้น 3.19 จุด หรือ 0.21% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 66,337.76 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอปิดที่ 492.73 จุด ลดลง 2.73 จุด หรือ 0.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5,117.91ล้านบาท

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ทรีนีตี้ กล่าวว่า ทิศทางการลงทุนเดือน ส.ค ที่ยังมียอดผู้ติดเชื้อยังสูงขึ้น ล่าสุด ศบค.ประกาศขยายเวลาในการล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ 18 ส.ค. เป็นอย่างน้อย และเพิ่มจังหวัดจาก 13 เป็น 29 จังหวัด ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจและการลงทุนที่จะเห็นการปรับลดประมาณการจีดีพี รวมถึงลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ลงได้อีก นอกจากนี้การล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อได้ส่งผลให้สภาพคล่องในระบบปรับตัวลดลง ส่งผลให้การมีส่วนร่วมของนักลงทุนทั่วไปในตลาดหุ้นไทยเริ่มอยู่ในระดับจำกัด 

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.ซีพีออลล์ ปิดที่ 57.50 บาท ลดลง -1.50 บาท

2.เอเอ็มอาร์ ปิดที่ 6.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท

3.ปตท. ปิดที่ 35.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

4.ซีพีเอฟ ปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

5.ไทยออยล์ ปิดที่ 44.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท