“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีแผนเดินหน้าลุยต่อ หลังจากตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ 2023 เป็นที่เรียบร้อย
นัดส่งท้ายกลุ่ม C เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ทีมไทย แพ้ อุซเบกิสถาน 0-2 แต่ 6 แต้ม จากการชนะ มัลดีฟส์ 3-0 และ ชนะ ศรีลังกา 2-0 ก็ยังเพียงพอต่อการเข้ารอบ
“พ่อบ้านโจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงการเตรียมตัวของทีมชาติไทย ว่าปีนี้จะเหลือฟีฟ่าเดย์อีกครั้งเดียวเท่านั้นในเดือน ก.ย. เนื่องจากว่าเดือน ต.ค. และ พ.ย. ทางฟีฟ่าให้เป็นการแข่งขันสโมสร เพื่อจะได้จัดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ส่วนของทีมชาติไทย ก็จะมีรายการชิงแชมป์อาเซียน ในชื่อใหม่ “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ” ที่จัดหลังจบบอลโลก ช่วง กลางเดือน ธ.ค. ไปถึง กลางเดือน ม.ค.ปีหน้า
สำหรับเกมฟีฟ่าเดย์ เดือน ก.ย. ทางสมาคมฯ ได้ติดต่อกับทีมที่จะมาอุ่นเครื่องไว้บ้างแล้ว รอการเซ็นสัญญาอีกครั้ง เช่นเดียวกับรูปแบบการแข่งขัน ที่กำลังดูสถานการณ์ว่าจะสามารถจัดเป็นแบบทัวร์นาเมนต์ได้หรือไม่ โดยอาจจะดูตัวอย่างจากการจัดการแข่งขันแดงเดือดไทย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล วันที่ 12 ก.ค. ถ้าลุล่วงด้วยดี ก็อาจจะทำให้ช่วงเดือน ก.ย.จัดเป็นทัวร์นาเมนต์ ให้แฟนบอลเข้าไปชมกันเต็มความจุได้
ขณะเดียวกัน ก่อนป้องกันแชมป์อาเซียน ทาง มาโน ขอเวลาเก็บตัวฝึกซ้อมราว 12 วัน คาดว่าจะไม่มีปัญหาใดๆ เนื่องจากเมื่อไม่มีเอเชี่ยนเกมส์แล้ว เลยทำให้สามารถเอาโปรแกรมไทยลีกมาไว้ช่วงเวลาดังกล่าวได้ด้วย.