สร้างปรากฎการณ์ได้ดีเกินคาดกับ “สลากดิจิทัล” ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้คลอดโครงการออกมา เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนคนไทยเอฟซีตัวจริงของวงการขายสลาก
เพราะจากจำนวน 5.17 ล้านใบ ที่นำเข้ามาขายผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ที่คุ้นเคย ก็ทำสถิติการขายหมดทั้งจำนวน ภายใน 4 วันครึ่ง เรียกได้ว่าสร้างความพึงพอใจให้กับบรรดาเซียนหวยที่ถวิลหาสลากใบละ 80 บาทมานานแสนนาน
แถมยังเชื่อหัว “ช่อชมพู” ได้เลยว่า…หากมีจำนวนสลากมากกว่านี้อีก ย่อมขายได้หมดอีกเช่นกัน ต่อให้เป็นเลขกาก ๆ เลขไม่สวย ก็ยังขายได้ เพราะเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ไม่สวย ไม่ใช่เลขนิยม ก็ยังมี เลข 3 ตัวหน้าให้เลือกเสี่ยงโชค
แต่ทั้งหมดยังเป็นเรื่องของการ “ชิมลาง” หรือทดสอบตลาด เท่านั้น การจะเดินหน้าต่ออย่างไร จะเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ บรรดาเซียนหวยทั้งหลาย คงต้องอดใจรอกันสักนิด
เรื่องราวทั้งหมดต้องรอให้ที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มี “ลวรณ แสงสนิท” อธิบดีสรรพากร คนใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากฯ เคาะแนวทางออกมาให้ชัดเจนกันอีกครั้ง ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้
เพราะอย่าลืมว่าธุรกิจการจำหน่ายสลากนั้น เกี่ยวข้องกับคนเป็นจำนวนกว่า 2 แสนคน หากทำอะไร “บุ่มบ่าม” หรือ “หัก” กันไปเลย ก็ทำให้ผู้ที่มีอาชีพขายสลากจำนวนไม่น้อยต้องเดือดร้อน
แต่ผลตอบรับของสลากดิจิทัลที่ออกมาในครั้งนี้ก็ถือว่า เป็นนิมิตหมายที่ดี ที่สำนักงานสลากฯจะได้พิสูจน์ให้เห็นว่า สลากราคา 80 บาทนั้นมีอยู่จริง หาซื้อได้จริง ขณะเดียวกันก็ยังทำให้จุดขายสลาก 80 บาท อำเภอละจุด นั้นขายดีตามไปด้วย
หากจำกันได้เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา คณะกรรมการสลากฯ ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคา 80 บาท ใน 3 แนวทาง ซึ่ง “สลากดิจิทัล” ก็ถือเป็นหนึ่งในแนวทางที่คณะกรรมการสลากฯ เห็นชอบ
นอกเหนือจาก แนวทางการเพิ่มจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท จำนวน 1,000 จุด ที่คาดว่าจะครบตามเป้าหมายภายในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งทำให้ร้านสลาก 80 ทั่วประเทศ มีสลากใบละ 80 บาท จำหน่ายมากถึง 2.5 ล้านใบ เมื่อรวมกับการขายสลากดิจิทัลผ่านแอพเป๋าตัง ก็เท่ากับว่าจำนวนสลากใบละ 80 บาทที่วางจำหน่ายในตลาดมีมากถึง 7.5 ล้านใบ
ส่วนอีกหนึ่งแนวทางที่บอร์ดสลาก เห็นชอบให้เร่งแก้ปัญหาก็คือการรื้อโควต้า ของบรรดาผู้จองซื้อสลาก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการรื้อโควต้าครั้งใหญ่ ในรอบ 7 ปีกันทีเดียว ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล เพราะมีคนสมัครเข้ามากันเป็นจำนวนมาก โดยรายเดิมตั้งแต่ปี 58 มีไม่เกิน 129,290 ราย ขณะที่รายใหม่ในปี 65 มีไม่เกิน 70,000 ราย
นั่นหมายความว่า…โรดแม็พ การแก้ไขปัญหาสลากราคาแพง ที่สำนักงานสลากฯและคณะกรรมการสลากฯ ดำเนินการกันมาโดยตลอดนั้นกำลังเห็นผลสัมฤทธิ์
ก็…อย่างที่ทุกฝ่ายเข้าใจว่า…วงการค้าสลาก เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับผู้คนมากมาย ขณะเดียวกันก็เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ผู้มีสี หรือแม้กระทั่งบรรดา “ผู้ทรงเกียรติ“ การพลิกเกมหรือพลิกฝ่ามือไปเลยทีเดียว คงไม่ใช่เรื่องง่าย
นอกจากนี้ยังมี “ตัวอย่าง”ในอดีตให้เห็นจากเรื่องของหวยบนดิน 3 ตัว 2 ตัว ที่พอ “เปลี่ยนขั้ว” ทุกอย่างก็ “กลับตาลปัตร” ถูกกลายเป็นผิด ผิดกลายเป็นถูก สุดท้ายคนที่เดือดร้อนของจริง ก็คือ “คนที่ทำงาน”
ต่อให้มีคณะคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด ที่ “บิ๊กตู่“ลงนามแต่งตั้งเมื่อวันที่ 12 ม.ค.65 ก็ตามทีเถอะ หากผลีผลามอะไรก็เกิดขึ้นได้
อย่างกรณีการให้ข่าวออกสลากเลข 3 หลัก คล้ายหวยใต้ดิน 2 ตัว 3 ตัว ยังถูก “เนติบริกร” อย่าง“วิษณุ เครืองาม“ รองนายกรัฐมนตรี มาเตือนสติไว้ก่อน ทำเอา “บางคน” ต้องหยุดชะงัก
เอาเป็นว่า ณ เวลานี้ ยังคงบอกอะไรไม่ได้ ว่า…ผลของสลากดิจิทัล จะไปถึงดวงดาวมากแค่ไหน? หากไม่ไปทับผลประโยชน์ หรือไปเขี่ยผลประโยชน์ใครทิ้ง ก็อาจเดินหน้าต่อไปได้
ถ้าการ “ชิมลาง” ที่เกิดขึ้นขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น ก็ย่อมปฎิเสธไม่ได้ว่า จะมีปัญหาอื่น!!ตามมาให้เห็นแน่นอน โดยเฉพาะการยกพวกเดินประท้วงต้านหวยดิจิทัล
แต่อย่างน้อย!! การพิสูจน์ให้เห็นว่า หวย 80 บาท มีอยู่จริง ได้เกิดขึ้นให้เห็นแล้ว!!
……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”