กลุ่มตาลีบัน (ขบวนการนักศึกษา) ที่มักเรียกกลุ่มตนเองว่า เอมิเรตอิสลามอัฟกานิสถาน หรือ ไออีเอ (Islamic Emirate of Afghanistan : IEA) เคยเรืองอำนาจ เป็นรัฐบาลปกครองอัฟกานิสถาน ด้วยอุดมการณ์สุดโต่งทางศาสนา ระหว่างปี 2539 จนถึง 2544 ซึ่งถูกกองทัพสหรัฐและพันธมิตร บุกโค่นล้มขับไล่ หลังเกิดเหตุการณ์ 9/11 กลุ่มก่อการร้ายสมาชิก อัล-กออิดะห์ บุกโจมตีอเมริกาครั้งสะเทือนโลก และสหรัฐได้เบาะแสว่า ตอนนั้น โอซามา บิน ลาเดน หัวหน้าใหญ่อัล-กออิดะห์ และพลพรรค หลบซ่อนตัวอยู่ในอัฟกานิสถาน
จากภาพข่าวที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศจีน แสดงให้เห็น นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของจีน ให้การต้อนรับ มุลเลาะห์ อับดุล กาห์นี บาราดาร์ ผู้นำระดับสูงของตาลีบัน และคณะ ที่เมืองเทียนจิน เมืองใหญ่อันดับ 4 ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ไม่ไกลจากเมืองหลวงกรุงปักกิ่ง ก่อนจะนั่งโต๊ะประชุมเจรจา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา
การแสดงออกถึงความเป็นมิตรโดยเปิดเผย ผ่านความเคลื่อนไหวคล้ายภารกิจทางการทูต เกิดขึ้นในขณะที่กลุ่มตาลีบันกำลังแสวงหา ความเป็นองค์กรที่ชอบธรรมทางกฎหมาย และการยอมรับจากนานาชาติ
จากรายงานของสำนักข่าวเอพี หวังกล่าวในระหว่างการประชุมกับบาราดาร์ ว่า รัฐบาลจีนให้ความเคารพ ต่อเอกราชอธิปไตย และความเป็นเอกภาพแห่งดินแดนของชาวอัฟกัน และยึดมั่นตลอดเวลาต่อหลักการ ไม่แทรกแซงกิจการภายในของอัฟกานิสถาน
การ “รีบเร่ง” ถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถาน ของกองทัพสหรัฐและองค์การนาโต แสดงให้เห็นความล้มเหลวทางด้านนโยบายของอเมริกา แต่เป็นการเปิดโอกาสสำคัญสำหรับประชาชนชาวอัฟกัน ในการสร้างเสถียรภาพ และพัฒนาประเทศของตนเอง
ไม่มีการเปิดเผย วาระการหารือระหว่าง หวัง-บาราดาร์
จีนกับอัฟกานิสถานมีเขตแดนร่วมระยะทางสั้น ๆ ประมาณ 76 กิโลเมตร บนเทือกเขาปามีร์ ตรงจุดที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล กว่า 5,000 เมตร ที่ผ่านมายาวนานจีนมีความวิตกมาตลอด กลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนา จะเล็ดลอดข้ามแดนตรงจุดนี้ เข้าสู่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของจีน ที่มีปัญหายืดเยื้อจากการก่อความไม่สงบของขบวนการแบ่งแยกดินแดน
จีนมีการลงนามข้อตกลงหลายรายการ เกี่ยวกับการขุดเจาะสำรวจพลังงานน้ำมันและก๊าซ และการทำเหมืองแร่ทองแดงในอัฟกานิสถาน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินงานอย่างจริงจัง
หวังกล่าวว่า ตาลีบันเป็นกองกำลังแกนหลักทั้งทางทหารและการเมืองในอัฟกานิสถาน และจีนคาดหวังว่า ตาลีบันจะมีบทบาทสำคัญ ในกระบวนการสันติภาพ ความปรองดอง และการฟื้นฟูประเทศ พร้อมกับเน้นย้ำ จีนหวังตาลีบันจะยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน เป็นอันดับแรก รวมทั้งเน้นการเจรจาและกำหนดเป้าหมายสันติภาพ และก่อตั้ง “ภาพลักษณ์ทางบวก” ทำงานเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ของทุกฝ่ายและทุกชนชาติในอัฟกานิสถาน
จีนหวังว่าตาลีบันจะ “จัดการอย่างเด็ดขาด” กับ ขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออก (East Turkistan Islamic Movement) ที่ปักกิ่งระบุว่า อยู่เบื้องหลังความพยายามแบ่งแยกดินแดนซินเจียงอุยกูร์
การถอนกำลังทหารสหรัฐและนาโต ออกจากอัฟกานิสถาน ภายในวันที่ 31 ส.ค. 2564 ถูกมองว่าเข้าทางปักกิ่ง คู่แข่งขันสำคัญทางยุทธศาสตร์ของวอชิงตัน ซึ่งมีความอึดอัดไม่พอใจมานาน ที่มีทหารสหรัฐและพันธมิตรมาอยู่ในดินแดนติดรั้วหลังบ้านตนเอง
นักวิเคราะห์มองว่า หากตาลีบันโค่นล้มรัฐบาลอัฟกานิสถานที่สหรัฐหนุนหลังได้สำเร็จ จะทำให้จีนและปากีสถาน ประเทศพันธมิตรเก่าแก่ เพิ่มความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ และเพิ่มแรงกดดันต่ออินเดีย ศัตรูร่วมของทั้ง 2 ประเทศ
การเยือนจีนของบาราดาร์และคณะ มีขึ้นเพียงไม่นาน หลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศ และ ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติปากีสถาน เดินทางเยือนแผ่นดินใหญ่
ปากีสถานมีความสำคัญต่อสันติภาพในอัฟกานิสถาน ผู้นำตาลีบันมีศูนย์บัญชาการอยู่ในปากีสถาน ดังนั้นอิสลามาบัดจึงใช้อิทธิพล กดดันตาลีบันให้เข้าสู่การเจรจาสันติภาพได้.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : AP