พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีนักศึกษาที่เป็นคนไทย-มุสลิม ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนยังสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ เช่นประเทศอินโดนีเซีย, ซูดาน และ ตุรกี จำนวนหนึ่งที่ยังตกค้างไม่สามารถเดินทางกลับมายังจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะสถานการณ์ของ ”โควิด-19” ที่ทำให้การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งสร้างความเป็นห่วงให้กับครอบครัวและต้องการให้ บุตร-ธิดา เดินทางกลับประเทศ โดยมีการประสานผ่านมายัง ศอ.บต. และ ผู้แทนราษฎร ในพื้นที่ และ ส.ส.ในพื้นที่ได้นำปัญหานี้ไปอภิปรายในสภา เพื่อให้รัฐบาลช่วยเหลือ นักศึกษาที่ยังตกค้างอยู่ในประเทศดังกล่าวข้างต้น
เนื่องจากนักศึกษาเกือบทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้เป็น พ่อ-แม่ ครอบครัวของนักศึกษาเหล่านี้ ที่มีความเป็นห่วง ทุกข์ใจกับการที่ลูก-หลาน ติดค้างอยู่ในต่างประเทศ ศอ.บต. จึงได้ ประสานงานกับ ศบค.ใหญ่ ในส่วนกลาง และกับกระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตในประเทศที่นักศึกษาเหล่านี้อาศัยอยู่และต้องการเดินทางกลับ โดยจะเริ่มที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีนักศึกษาที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ 50 กว่าคน และประเทศซูดานอีก 40 กว่าคน ทั้ง 2 ประเทศ ประมาณ 100 คน ให้สามารถเดินทางกลับประเทศไทยในห้วงของเดือนสิงหาคม นี้
ขั้นตอนขณะนี้คือสถานทูตไทยในประเทศอินโดนีเซีย และซูดาน ดำเนินการในรายละเอียดด้านเอกสารและขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่เรื่องของสายการบิน การตรวจสุขภาพ การฉีดวัคซีน ตามกำหนดเวลา ตามกฎระเบียบ ก่อนที่จะส่งกลับประเทศไทย ในส่วนของ ศอ.บต. คือการรับตัวนักศึกษาที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการจัดสถานที่ในการกักตัวเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบ ซึ่งสถานที่ทั้งหมดได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว คาดว่านักศึกษาที่ตกค้างใน 2 ประเทศ น่าจะได้เดินทางกลับประเทศไทยกลางเดือนสิงหาคม นี้ จึงขอให้ผู้ปกครองของนักศึกษาเหล่านี้คลายความวิตกกังวลและความทุกข์ใจได้ เพราะแม้ว่า จำนวนนักศึกษาที่ตกค้างในประเทศเหล่านี้จะมีไม่มาก แต่รัฐบาล และ ศอ.บต.ได้ให้ความสำคัญต่อทุกข์ปัญหาทุกชีวิตที่เท่าเทียมกัน