นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ให้ความมั่นใจโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ยังคงเดินหน้าต่อ ภายใต้การยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ควบคุมการเดินทาง และเคลื่อนย้ายแรงงานในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติมการปิดสถานที่หรืองดกิจกรรมที่มีความเสี่ยง มีผลตั้งแต่วันที่ 3-16 ส.ค.นี้ เพื่อให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ และสร้างความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและประชาชนภูเก็ตทุกคน
ทั้งนี้จากการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-28 ก.ค. 2564 มีภาพรวมที่เป็นไปในทิศทางที่น่าพอใจ โดยมีนักท่องเที่ยวจำนวน 12,395 คน มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60,000 บาท/ทริป/คน สร้างรายได้แล้วประมาณ 749.95 ล้านบาท
ขณะเดียวกันจากการประเมินของกรมควบคุมโรคที่พบอัตราการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในพื้นที่ค่อนข้างต่ำ โดยการติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากภายนอกหรือติดกันเอง โดยไม่มีการแพร่กระจายในพื้นที่ มองว่าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ยังดำเนินไปได้ด้วยดี แม้สถานการณ์โลกและประเทศจะมีการแพร่ระบาดอยู่ก็ตาม
อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเดือน ต.ค. เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว หากประเทศไทยสามารถสร้างความเชื่อมั่นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว โดยเน้นพื้นที่ปลอดภัยจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สมุยพลัสโมเดล (เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า) และเตรียมขยายต่อเนื่องต่อไปยังจังหวัดกระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์) และจังหวัดพังงา (เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่) ตามลำดับได้ เชื่อว่าจะส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
นายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาลพยายามการสร้างความสมดุลระหว่างการเฝ้าระวังความปลอดภัยสุขภาพอนามัยและการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพี่อคนไทยทุกคน จึงขอให้ช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว อีกทั้งภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ กำลังเป็นที่กล่าวถึงและเป็นที่จับตาของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เพราะหากประสบความสำเร็จ จะถือว่าเป็นแนวทางในการที่ประเทศอื่น ๆ จะนำไปเป็นต้นแบบในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในลักษณะเดียวกัน