และเบื้องหลังความสำเร็จนั้น รัตนาภรณ์ สีวลีพันธ์ ภริยา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้ถ่ายทอดถึงที่มาว่า เกิดขึ้นมาจากโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของครอบครัวตำรวจ ซึ่งเป็นนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่อยากให้สมาคมแม่บ้านตำรวจ เข้ามาช่วยเหลือว่าจะทำอย่างไร จึงเริ่มต้นจากสำรวจความคิดเห็นก่อนว่า อยากให้สมาคมแม่บ้านตำรวจทำอะไรและสื่อสารผลการสำรวจความคิดเห็นออกไป ซึ่งผลจากการสำรวจความคิดเห็นคือ อันดับที่หนึ่งคืออยากให้สนับสนุนอาชีพเสริม อันดับที่สอง สวัสดิการที่ดีขึ้น และอันดับที่สามทุนการศึกษา จึงเริ่มต้นด้วยการส่งเสริมการทำอาชีพเสริมคือ การหาช่องทางการจัดจำหน่าย จึงได้ตั้งร้านปันรักษ์ขึ้นมา โดยร้านแรกอยู่ที่อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ

สำหรับการเปิดร้านปันรักษ์ คาเฟ่ ณ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กรุงเทพฯ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เผยว่า เริ่มจากการสำรวจโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ประมาณ 220 โรงเรียน โดยขอให้ครูใหญ่ส่งผลการสำรวจมาว่า มีความต้องการอะไร และทำการจัดแบ่งกลุ่มความต้องการเป็นแต่ละด้าน คือความต้องการปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็น การก่อสร้าง ซ่อมแซมปรับปรุงอาคารเรียน ด้านทุนการศึกษา และความต้องการด้านส่งเสริมอาชีพ หลังจัดแบ่งกลุ่มและมีการทำโฟกัสกรุ๊ปโดยทีมสมาคมแม่บ้านตำรวจ ทำให้ทราบว่าอาชีพที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสนใจมีหลายอาชีพทั้งการจักสาน ปักผ้าม้ง กล้วยตาก แต่สำหรับกาแฟมองว่าคือพืชเศรษฐกิจ จากการลงสำรวจกาแฟทั่วประเทศของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน มีทั้งหมด 5 โรงเรียน ทางภาคเหนือและภาคใต้ ที่คุณครูได้ปลูกกาแฟ สอนนักเรียนเป็นบาริสต้า และขายกาแฟให้แก่ผู้มาเยือน โดยมีคีออสเล็ก ๆ ขายให้คนที่มาเยือนโรงเรียน ซึ่งก็ไม่บ่อย บางครั้งขายผลผลิตไม่หมดก็ขายเป็นผลเชอรี่ไปให้พ่อค้าคนกลาง เลยมาคิดว่าจะทำอย่างไรในการสนับสนุนอาชีพ จึงได้มีการนำเมล็ดกาแฟตัวอย่างของ 5 โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่อยู่ทางภาคเหนือคือ เมล็ดพันธุ์กาแฟอาราบิก้า และทางภาคใต้คือพันธุ์กาแฟโรบัสต้า ให้ทรู คอฟฟี่ ได้ทดลองรสชาติ ทำให้ทราบว่า กาแฟจากบ้านสามหมื่นเป็น “กาแฟมีรสชาติดีมาก” จึงมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟให้ความรู้อบรมสอนการทำกาแฟให้กับคุณครูและนักเรียน

นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เล่าถึงความตั้งใจในการเปิดปันรักษ์ คาเฟ่ ว่า “ทำขึ้นมาเพื่อให้รายได้กลับไปเป็นสวัสดิการของตำรวจทั่วประเทศ นอกจากเมล็ดกาแฟที่ซื้อมาจากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน มีรายได้กลับสู่ชุมชน รายได้จากการขายกาแฟแต่ละแก้ว เป็นรายได้กลับสู่กองสวัสดิการของตำรวจตระเวนชายแดนซึ่งนำไปดูแลสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนทั่วประเทศ เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตรงจุดนี้อยากให้เป็นเอาต์เลต ของการวางสินค้าจัดจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ของข้าราชการตำรวจกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ข้าราชการตำรวจ และข้าราชการตำรวจที่เกษียณแล้ว เป็นการบูรณาการแบบองค์รวม แต่ทั้งหมดเราจะประสบความสำเร็จไม่ได้ถ้าขาดองค์ประกอบการสนับสนุนจากภาคเอกชน สมาคมฯ ได้จัดตั้งเป็นองค์กรสาธารณกุศล เมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งผู้สนับสนุนสามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ อันที่สองการทำกิจกรรมจะไม่เกิดขึ้นถ้าขาดกำลังคน หวังว่าอยากเพิ่มร้านไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่กาแฟ แต่เป็นการต่อยอดอาชีพไม่จำกัดผลิตภัณฑ์ แต่ขอให้เป็นของที่ดี คุณภาพดี ราคายุติธรรม ร้านปันรักษ์ เป้าหมายตั้งใจเป็นเอาต์เลตขายของแม่บ้านตำรวจ อาจมีร้านที่สาม ที่สี่แล้วแต่ความสนใจความพร้อมของหน่วยงาน ซึ่งทางสมาคมแม่บ้านตำรวจจะสนับสนุน”

นอกจากนี้ ภริยา ผบ.ตร. ยังย้ำถึงหลักการในการทำหน้าที่นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจว่า “พี่ว่าการกระทำให้ดี คือ เราอยากให้บรรลุผลให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนชัดเจนและดีจริง การมอบโอกาสให้กับคนจะทำให้สำเร็จได้มีสองปัจจัยหลัก ปัจจัยแรกคือสนับสนุน และปัจจัยที่สองคือ “คน” ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริหารที่ไหน บริษัทอะไรก็แล้วแต่ บริษัทนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ต้องดูว่าบริษัทนั้นมีคนเก่งมาทำงานไหม สำคัญคือถ้าบริษัทสามารถดึงคนเก่งมาทำงานร่วมกันได้ ขณะเดียวกัน สมาคมแม่บ้านไม่มีเงินเดือน ในหน้าที่ถ้าพี่เป็นผู้บริหาร พี่มองว่าพี่เป็นหัวหน้าทีมทำงาน พี่จะสร้างคอมมอนโกล ให้ทุกคนมีวัตถุประสงค์ร่วมกัน ทำให้เขาเข้าใจในวัตถุประสงค์ร่วมกัน แล้วยินดีที่มาทำงานร่วมกัน สร้างให้เขาเกิดภาวะตรงนี้ เรามีการทำงานเป็นรูปธรรมมากขึ้น ตรงต้องใช้กำลังกายและกำลังใจเข้ามาช่วยกันทำงาน พี่สร้างให้เขาเกิดจุดประสงค์ร่วมกัน ว่าเราทำไปทำไม เราทำอย่างนี้ เราทำเพื่อพวกเราทุกคน วันนี้เราโชคดีหรือได้รับโอกาสดี แล้วเราทำไมไม่แบ่งโอกาสนั้นไปให้คนที่ไม่มีโอกาส มันก็เกิดเป็นการพัฒนาเป็นองค์รวมร่วมกัน หน้าที่พี่คือการทำให้เขามีความต้องการร่วมกันและดึงศักยภาพของจุดเด่นคณะแม่บ้านตำรวจ คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ มาทำงานร่วมกัน เรามีคนเก่งเยอะ พี่เป็นแม่ครัวที่ดึงจุดแต่ละคนที่เก่งมาผัดอาหารแล้วเสิร์ฟ พี่ทำคนเดียวไม่ได้หรอก ถ้าไม่มีการช่วยกัน หลักการทำงานของพี่มาแต่ไหนแต่ไร สิ่งที่สำคัญคือ คุณทำแล้วมีความสุขไหม ถ้าคุณทำ คุณชอบในสิ่งที่คุณทำ คุณรักในสิ่งที่คุณทำ มีสกิลหรือไม่มีสกิลซึ่งสกิลปรับเรียนรู้ได้ คุณต้องชอบก่อน ทำอะไรก็แล้วแต่ ขอให้เราชอบ ถ้าเราชอบ เราจะมีแพชชั่น มีความสุขในการทำงาน”.