เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 4 พ.ค. ที่ตลาดโอโซนวัน เขตดอนเมือง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ  กทม. หมายเลข 6 พร้อม ส.ก.กลุ่มรักษ์กรุงเทพ เขตดอนเมือง ลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงกับพี่น้องประชาชนที่มาซื้อของในช่วงเย็น โดยแจกแผ่นพับนโยบาย และปราศรัยย่อย

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า วันนี้มาที่ตลาดแห่งนี้ เพื่อมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนที่มาค้าขาย และพี่น้องประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย และก็มาชี้แจงถึงสิ่งที่ทำไปแล้วและที่กลับมาสมัครใหม่ เพื่อทำในสิ่งที่ยังต้องทำต่อเนื่องให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง วันที่ 22 พ.ค.นี้ เลือกทั้ง ส.ก.และผู้ว่าฯ เบอร์ 6 ซึ่งส่วนใหญ่พี่น้องประชาชนก็คุ้นเคยกันอยู่แล้ว เพราะเคยมาลงพื้นที่ตอนน้ำท่วม และตอนปัญหา โควิด-19 จากวันนี้เป็นต้นไป ก็จะเน้นในการลงพื้นที่เป็นหลัก

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในตอนนี้เกินครึ่งทางมาแล้ว ตนได้พยายามไปทุกเขต การประเมินจริงๆ ก็ต้องอยากได้ทั้งหมดที่ส่งทุกเขต ทุกคน แต่การแข่งขัน ก็เข้าใจดี ต้องมีผู้สมหวังและผิดหวัง มีผู้ชนะและผู้แพ้ แต่ก็อยากจะเป็นผู้ชนะให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และคิดว่าเขตดอนเมืองก็มั่นใจเลยว่า ส.ก.ของเราจะชนะแน่นอน เพราะเป็นลูกหลานชาวดอนเมือง โตที่นี่ เรียนที่นี่ ทำมาหากินที่นี่ ก็ได้ใจพี่น้องประชาชนชาวดอนเมือง

ส่วนการแก้ปัญหาน้ำท่วมให้กับชาวดอนเมืองนั้น ตนแก้ปัญหาไปเยอะพอสมควร โดยเฉพาะอุโมงค์คลองเปรมประชากร ซึ่งคลองเปรมประชากร ต้องแยกเป็น 2 ส่วน ยาวมาตั้งแต่ จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี แล้วเข้ามาที่กรุงเทพฯ คลองเปรมจะไปสิ้นสุดที่ข้างๆ ทำเนียบรัฐบาล แล้วไปที่คลองผดุงกรุงเกษม นอกจากจะทำคูคลองให้สะอาดแล้ว ต่อไปการระบายน้ำก็จะดีขึ้น และจะมีการก่อสร้างข้างล่างให้เป็นอุโมงค์ระบายน้ำเชื่อมต่อกัน ในปี 69 ก็จะแล้วเสร็จ เขตดอนเมืองจะได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องชุมชนริมคลอง ที่มีการสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำเข้าไปในคลองนั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ไม่ได้มีการไล่รื้อ จริงๆ แล้วต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนก่อนว่า เราได้มีการไปทำความเข้าใจ หาที่อยู่ใหม่ให้ มีการชดเชยให้ ไปสอบถามว่ามีใครต้องการจะอยู่บ้านที่ทาง พอช. เป็นคนสร้างให้ ถ้าอยากจะจอง หรืออยากไปอยู่ที่อื่น ก็จะชดเชยค่ารื้อถอนให้ ไม่ใช่การไปไล่รื้อ ซึ่งมันจะทำให้เกิดความสวยงาม และน้ำในคลองก็จะไหลได้อย่างสะดวก พี่น้องประชาชนใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เหลือเพียงส่วนน้อยที่จะต้องค่อยๆ ไปทำความเข้าใจกัน ก็คงจะไม่มีปัญหา.