การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดล่าสุดที่ทำเนียบรัฐบาล มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไล่เช็กเสียงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล หลังมีการปล่อยข่าวเรื่องขบวนการล้มนายกฯ
โดยใช้วิชามารซื้อเสียง ส.ส.หัวละ 5-30 ล้านบาท แลกโหวตล้มนายกฯ ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ช่วงต้นเดือน ก.ค. หรืออาจแฉลบไปคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วาระ 2-3 ช่วงกลางเดือน ส.ค.
เอาเป็นไปว่ามองข้ามชอตไปเลย หากในอนาคตอันใกล้เกิดอุบัติเหตุการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญมาตรา 170 คือ ตาย, ขาดคุณสมบัติ, ต้องคำพิพากษาให้จำคุก, สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่ไว้วางใจ
(1) ขั้นที่หนึ่งหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่ง ต้องมีนายกฯ รักษาการตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534
โดยเมื่อวันที่ 13 ส.ค.2563 ที่ประชุม ครม.มีมติมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกฯ ตามลำดับคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ,นายวิษณุ เครืองาม, นายอนุทิน ชาญวีรกุล, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, นายดอน ปรมัตถ์วินัย และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์
หมายความว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพ้นตำแหน่ง คนที่จะได้ขึ้นมาทำหน้าที่นายกฯ รักษาการ คือ พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่ของกลุ่ม 3 ป.
(2) ขั้นที่สอง ประธานรัฐสภาต้องเรียกประชุม ส.ส.-ส.ว.เพื่อเลือกนายกฯ สำรองในบัญชีพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88
จากการตรวจสอบสถานะตอนนี้รายชื่อนายกฯ สำรองในบัญชีพรรคการเมืองมีทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์, นายชัยเกษม นิติสิริ, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จากพรรคเพื่อไทย
กติกาการโหวตเลือกนายกฯ สำรองต้องได้เสียงสนับสนุนมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา คือต้องได้คะแนน 363 จาก 725 เสียงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคหนึ่ง
(3) ขั้นสาม หากที่ประชุม ส.ส.-ส.ว.เลือกนายกฯ สำรองในบัญชีพรรคการเมืองไม่ได้ ต้องขอมติที่ประชุมให้เลือกนายกฯ คนนอก
โดยต้องใช้เสียง 2 ใน 3 หรือ 484 เสียง จากนั้นเป็นขั้นตอนเสนอชื่อและโหวตเลือกนายกฯ คนนอกตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคสอง
ฟันธงล่วงหน้าไปเลย หากสถานการณ์บ้านเมืองเลยเถิดไปถึงขั้นต้องหานายกฯ คนนอก พล.อ.ประวิตร คือคนที่มีโอกาสทำหน้าที่นายกฯ ขัดตาทัพมากที่สุด
แม้ ‘บิ๊กป้อม’ สุขภาพอาจไม่เอื้ออำนวย แต่เป็นการทำหน้าที่นายกฯ คนนอกในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนรัฐนาวาครบวาระเดือน มี.ค.ปี 2566
คุณสมบัติสำคัญของ พล.อ.ประวิตร คือสามารถต่อสายเจรจากับทุกขั้วการเมืองและเป็นที่ไว้วางใจของพี่น้อง 2 ป.
ซื้อเวลาให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไต่ลงหลังเสือเข้าไปหลบหลังม่าน เพื่อเตรียมบัญชาการศึกเลือกตั้งใหญ่ต้นปี 2566.
ขุนไพร พิเคราะห์การเมือง