เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหนองไผ่ ต.หลักเขต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อยากให้ไปช่วยตรวจสอบงานทอดกฐินของวัดหนองไผ่ ที่ผ่านมา ว่าโปร่งใสหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่างานทอดกฐิน ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีเจ้าภาพคณะกฐิน เป็นคนในตัวเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งพบความผิดปกติเพราะงานกฐินวัดแห่งนี้จะแตกต่างจากงานกฐินทั่วไป
สอบถามพระครูประดิษฐ์ ปัญญาภรณ์ อายุ 74 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองไผ่ และเจ้าคณะตำบลหลักเขต กล่าวว่า งานกฐินปีนี้ เจ้าภาพเป็นคนเดิมที่เคยมาทอดแล้ว 2 ครั้ง อาตมาก็ให้จัดร่วมกับชาวบ้าน โดยชาวบ้านจะรวมยอดมาต่างหาก โดยมีเจ้าภาพเป็นกฐินกองใหญ่ และเป็นผู้จัดหาทุกอย่างทั้งพิมพ์ซอง และหาแหล่งผู้ใจบุญมาร่วมทอดกฐิน หลังจากพิธีทอดกฐินเสร็จ ยอมรับว่าไม่ทราบจำนวนยอดกฐิน พอเสร็จงานเจ้าภาพได้หอบเงินกลับไปในเมืองทันที หลังจากนั้นประมาณ 17.00 น. เจ้าภาพได้นำเงินมามอบให้ 100,000 บาท แต่ไม่ได้แจ้งว่ายอดสุทธิของกฐินได้เท่าไหร่
พระครูประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเจ้าภาพคนนี้เคยมาเป็นเจ้าภาพงานผ้าป่าของวัดแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกนำเงินมาให้วัด 20,000 บาท มารู้ภายหลังว่ายอด 100,000 บาท ผ้าป่าครั้งที่สอง เอาเงินมาให้วัด 25,000 บาท และมาทราบที่หลังอีกเช่นเดียวกันว่าได้ยอดผ้าป่า 150,000 บาท ส่วนที่เหลือเจ้าภาพบอกว่าเอาไปสร้างพระนอน แต่ไม่มีบัญชีรายรับรายจ่ายให้วัด และครั้งนี้เป็นงานทอดกฐิน
พระครูปริยัติธรรมปหัฎฐ์ เจ้าคณะตำบลอีสานเขตองค์ที่ 2 กล่าวว่า ตามปกติหลังกล่าวคำถวายกฐินเสร็จ จะต้องแจ้งยอดเงินให้ชาวบ้านได้รับทราบภายในงานแล้วมอบยอดเงินทั้งหมดให้วัดทันที แต่ไม่เห็นการถวายยอดปัจจัยของกฐินทำให้ชาวบ้านต่างสงสัยกันหมด ทั้งเจ้าภาพยังเอาเงินกลับบ้าน โดยมีชาวบ้านหลายคนถามเพื่ออยากได้ตัวเลขของยอดเงินไปเสี่ยงโชค แต่ทุกคนผิดหวัง
ด้านนายทรงศักดิ์ โคกรัมย์ อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านหนองไผ่ ต.หลักเขต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ บอกว่า เจ้าภาพคนนี้จะใส่ชุดขาว มีทีมงานมาด้วย กองกฐินของชาวบ้านเจ้าภาพได้ตามเอาไปรวมกันกับกองใหญ่ เมื่อลูกศิษย์ของหลวงตาไปถามยอด เจ้าภาพบอก “ไม่ต้องถามเรื่องยอด” ชาวบ้านมาถามตนว่า “ยอดเท่าไหร่” ตนบอกชาวบ้านว่าไม่รู้ ทำให้ชาวบ้านข้องใจ บางคนกล่าวหาว่าผู้ใหญ่บ้านหอบเงินหนีทั้งที่ตนไม่รู้เรื่อง.