หลังจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมายืนยันว่าการเข้ารับราชการของ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 ช่วยราชการ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ใช้วุฒิ ปวส. ที่จบด้านบัญชี เข้ามาตามระเบียบ เมื่อปลายปี พ.ศ.2560 ทางสำนักงานงบประมาณและการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขาดแคลนผู้มีคุณวุฒิด้านบัญชี ซึ่งขณะนั้น ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ อายุ 39 ปี แม้จะอายุเกิน 35 ปีก็ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกเข้ามาเป็นตำรวจ เมื่อมีคดีฉาวขึ้นที่ สภ.เมืองราชบุรี จึงสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งวงการสีกากี ทำให้ กอ.รมน.ภาค4 สน. ได้ทำหนังสือด่วน ส่งตัว ส.ต.ท.หญิง กลับต้นสังกัดทันที
ทีมข่าวเฉพาะกิจ ส่วนกลาง มีโอกาสพูดคุยแหล่งข่าว เกี่ยวกับข้อมูลทำไมมีข้าราชการหลายหน่วยงาน มีชื่อไปอยู่ใน “กอ.รมน.ภาค 4 สน.” ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ ค่ายสิรินธร ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่เรียกว่า พลเรือน ตำรวจ ทหาร มีระเบียบปฏิบัติในการจัดกำลังพล คือ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และพลเรือน จึงต้องดึงจากหลายหน่วยลงมาช่วยราชการ แต่ทุกคนยังมีตำแหน่งในสังกัดเดิมอยู่ ส่วนใหญ่จะเข้ามาทำหน้าที่ ทั้งการข่าวและอีกหลายๆ ตำแหน่ง ทำให้มีหลายคนไม่จำเป็นต้องมาลงชื่อเพื่อเข้าทำงาน
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/08/VideoCapture_20220821-133900-1-1024x577.jpg)
กรณีของ “ส.ต.ท.หญิง” ซึ่งจะมีเส้นมีสาย ผู้หลักผู้ใหญ่ระดับ “บิ๊ก” ส่งชื่อเพื่อมาช่วยราชการ ทำให้มักจะเรียกกลุ่มนี้ว่าพวก “บัญชีผี” ชื่อลงมา แต่หลายคนไม่รู้ตัวไปอยู่ไหน มีหนังสือส่งตัวมาจริงตามขั้นตอนจะระบุว่ามีความรู้ ความสามารถ ในการมาช่วยราชการ โดยบัญชีผีมีมานานแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาแฉ เพราะเปรียบเสมือนเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เนื่องจากตามระเบียบของการช่วยราชการ นอกจากจะได้รับเงินเดือนจากต้นสังกัดตัวเองตามปกติแล้ว ผู้ที่ลงมาช่วยราชการพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังจะได้รับการตอบแทน ที่เรียกว่า “สิทธิกำลังพล” อาทิ 1.การขอนับเวลาราชการทวีคูณ ได้อายุราชการมากกว่าผู้อื่น 2.ได้รับเบี้ยงเลี้ยงพิเศษรายวัน 3.ค่าเสบียงอาหาร 4.เงินพิเศษสำหรับการสู้รบ (พ.ส.ร.) และ 5 ค่าเครื่องแต่งกาย ฯลฯ เบี้ยเลี้ยง เงินพิเศษ ของระดับชั้นประทวน และระดับชั้นสัญญาบัตร ก็แตกต่างกันไปตามลำดับชั้น
ดังนั้นผู้ที่มีรายชื่อลงมาช่วยราชการ แต่ตัวไม่ได้ลงมาทำงาน เกือบทั้งหมดจึงต้องมี “ผู้ใหญ่” ให้การช่วยเหลือ ไปพูดคุยตกลงกับทางกรมกองต้นสังกัด เพื่อขอตัวมาช่วยราชการ ที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน. เมื่อเกิดกรณี ส.ต.ท.หญิง ขึ้นมา จึงถือว่าเป็นเรื่องใหญ่กลายเป็นว่า นอกจากจะถูกสอบข้อมูลย้อนหลังอย่างละเอียด ตั้งแต่การเข้ามารับราชการตำรวจซึ่งตัวเองมีอายุมากถึง 39 ปีแล้ว ก็ต้องตรวจสอบด้วยว่าระดับ “บิ๊ก” คนใดเป็นผู้ขอตัวให้ลงไปช่วยราชการ 3 จว.ชายแดนภาคใต้ ซึ่งข้อมูลลึกขณะนี้ ส่วนใหญ่เริ่มรู้กันแล้วว่าใครเป็นผู้ฝากฝัง.