กรณีสาวพิจิตร ถูกแทงเสียชีวิตที่บริเวณหน้าลิฟต์ชั้น 7 คอนโดเมืองทอง ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงกลางดึกของวันนี้ (26 ธ.ค.) คืบหน้าล่าสุด น.ส.มนัสชนก นาขำ อายุ 38 ปี ญาติของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่คอนโดที่เกิดเหตุเพื่อเก็บข้าวของของผู้ตายในห้องพัก โดยจะนำร่างของผู้เสียชีวิตจะไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ที่วัดพระงาม จ.นครปฐม และในวัน 28 ธ.ค. จะนิมนต์พระมาทำการเชิญวิญญาณผู้ตายที่จุดเกิดเหตุ
น.ส.มนัสชนก เปิดเผยว่า ตนไม่ค่อยได้ติดต่อกับผู้ตายสักเท่าไร ส่วนมากผู้ตายจะติดต่อกับแม่มากกว่า และเคยบอกว่าจะกลับบ้านไปหาแม่ในวันปีใหม่ โดยติดต่อกับผู้ตายครั้งล่าสุดเมื่อวันสองวันที่ผ่านมา ปกติทราบว่าน้องทำงานเกี่ยวกับคลังสินค้า และไม่ค่อยทราบเรื่องของผู้ตายสักเท่าไร ก่อนหน้าผู้ตายยังบอกกับแม่ว่า ห้องพักถูกงัด แต่ก็ยังไม่ได้ย้ายออก ก่อนที่จะมาเกิดเรื่องดังกล่าว โดยที่ตัวน้องยังไม่มีแฟน และยังไม่ได้คบใคร โดยอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุมาโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ไห้ไปก่อเหตุกับใครที่ไหนอีก ส่วนแม่ผู้เสียชีวิตกำลังเดินทางมาจากต่างจังหวัดคาดว่าจะมาถึงในวันนี้
ล้อมจับโจรงัดห้องมีดแทงสาวพิจิตรดับ ตร.คาดฝีมือหนุ่มคอนโดฯเดียวกัน
ด้าน พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ กล่าวว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นเป็นบาดแผลเดี่ยวที่ทำให้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุทำให้เสียชีวิตขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ เพราะว่าห้องไม่มีร่องรอยของการงัด จากการสันนิษฐานร่วมกับฝ่ายสืบสวนคาดว่า คนร้ายน่าจะมาเคาะประตู พอผู้เสียชีวิตไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่ได้มาเปิดประตู จากนั้นคนร้ายน่าจะผลักประตูเข้าไป ภายในห้องมีร่องรอยการต่อสู้และทรัพย์สินในห้องก็ไม่มีอะไรสูญหาย
ผกก.บางพลี กล่าวต่อว่า จากการสอบถามจากทางญาติแล้วมีเพียงร่องรอยการต่อสู้และมีเลือดที่ไหลออกมาจำนวนมาก ส่วนสาเหตุก็เป็นไปได้ทั้ง 2 ประเด็นอาจเป็นการประทุษร้ายต่อทรัพย์หรืออาจเข้าไปจะทำมิดีมิร้ายกับผู้ตาย แต่ขณะนี้ยังไม่มีพยานและหลักฐานเฉพาะเจาะจงว่าเข้าไปทำอะไร แต่เชื่อว่าคนร้ายเข้าไปหวังทำมิดีมิร้ายแน่นอนเพราะมีอาวุธมีดไปด้วย และอาวุธมีดที่ใช้ทำร้ายผู้ตายก็ตกอยู่ในห้องที่เกิดเหตุ จากการหาเบาะแสคาดว่าคนร้ายน่าจะอยู่ในอาคารนี้ และทางผู้บังคับบัญชาก็สั่งการณ์ให้ทำการตรวจค้นทุกห้องตั้งแต่เมื่อคืนนี้เป็นช่วงเวลากลางคืนจึงยังทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ปิดล้อมไว้เท่านั้น จนกระทั่งเช้าก็เข้าทำการตรวจค้นทุกห้องจนครบทั้ง 244 ห้องก็ยังไม่เจอตัวผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด
พ.ต.อ.วิโรจน์ กล่าวอีกว่า จากการดูกล้องของฝ่ายสืบสวนก็ยังไม่เห็นผู้ต้องสงสัยออกจากตึกนี้แต่อย่างใด แต่ว่าตึกนี้บางห้องก็เป็นห้องว่าง ตอนนี้เราไปตรวจสอบแล้วก็ยังไม่เจอ ก็เลยยังไม่ทราบว่าคนร้ายยังอยู่ในตึกนี้หรือเปล่า แต่ตอนนี้เราก็ยังทำการสกรีนตึกอยู่ มีเจ้าหน้าที่สายตรวจบันทึกหลักฐานบุคคลที่เข้าออกภายในอาคารนี้ ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนก็ไปเดินไล่กล้องวงจรปิดตามบริเวณรอบนอกขยายวงกว้างออกไปตามคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์หลังเกิดเหตุว่าคนร้ายเป็นชายมีรูปร่างลักษณะผอมสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ผิวออกดำคล้ายแรงงานต่างด้าว เพราะพยานมาพบตอนที่ผู้ก่อเหตุวิ่งลงมาจากชั้น 7 ซึ่งเป็นจังหวะพยานเปิดประตูออกมายืนประจันหน้ากันห่างไม่เกิน 5 เมตร จึงจำหน้าผู้ก่อเหตุได้ ซึ่งเราก็ได้เอาไปสอบไว้เป็นพยานไว้แล้ว ส่วนการติดตามคนร้าย ถ้าฝ่ายสืบสวนดูกล้องแล้วจะทราบผู้ต้องสงสัยเข้ามาในตึก เพราะคนเข้ามาในตึกยังไงก็ต้องผ่านกล้องวงจรปิดเพราะเขาติดอยู่จุดเดียวคือชั้นล่าง ใครเข้าออกต้องเห็นอยู่แล้ว แต่ด้วยระยะเวลาที่จำกัดก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดูอยู่ คาดว่าน่าจะได้ตัวผู้ต้องสงสัยในเร็วๆ นี้.