เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ชาวบ้านใน จ.บุรีรัมย์ ว่า ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี ลูกสาวถูกเพื่อนบ้านชื่อ นายไร (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ข่มขืนกระทำชำเรา 2 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 11 และ 12 มีนาคม มารู้เรื่องวันที่ 19 เมษายน เพราะผู้ก่อเหตุกำลังจะข่มขืนลูกสาวแล้วภรรยาผู้ก่อเหตุมาเจอ จึงโวยวายไม่พอใจจนเรื่องแดง แต่เมื่อเอาเรื่องไปแจ้งความกับตำรวจกลับไม่มีความคืบหน้า

ระหว่างนั้นทางฝ่ายญาติผู้ก่อเหตุพยายามเสนอเงินให้หลายครั้งล่าสุดให้มากถึง 50,000 บาท แต่ตนไม่ยอมความ สุดท้ายตำรวจนัดให้ไปให้การเช้าวานนี้ (8 มิ.ย.67) ปกติตนจะเหมารถไป-กลับพาลูกสาวเดินทางไปโรงพัก เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 600 บาทต่อครั้ง แต่เพราะครั้งนี้ไม่มีเงินจึงขี่จยย.ให้ลูกสาวนั่งซ้อนกันไป แต่พอไปถึงตามเวลานัดหมาย ปรากฏว่าฝ่ายตำรวจบอก “…ออกเวรแล้ว…” ก่อนจะจากไปดื้อ ๆ โดยไม่สนใจว่าตนและลูกซึ่งเป็นฝ่ายผู้เสียหายในคดีมีความลำบากในการเดินทางแต่อย่างใด เหมือนกับเป็นการเตะถ่วงคดีออกไปเรื่อย ๆ

ตนและลูกไม่รู้จะพึ่งพาใครได้ เนื่องจากอีกฝ่ายมีญาติเป็นอดีตสมาชิก อบต. เป็นบุคคลกว้างขวางในพื้นที่ เมื่อลูกสาวไปโรงเรียนมีเพื่อนรู้เรื่องที่เกิดขึ้น นอกจากจะไม่สงสารหรือเห็นใจเพื่อนด้วยกันแล้ว ยังพูดจาบูลลี่ล้อเลียนทุกวันว่า “…โดนไหม…” จนรู้สึกอับอายไม่กล้าไปโรงเรียนอีกต่อไป ยิ่งเวลารถยนต์ของ นายไร ขับผ่านหน้าบ้านก็ยิ่งหวาดผวา กลัวว่านายไรจะมาฆ่าตามคำขู่ ตอนนี้ต้องพาลูกไปอาศัยอยู่บ้านญาติต่างหมู่บ้านเพื่อความปลอดภัย

” เราเป็นชาวบ้านยากจนคนธรรมดา หาเช้า-กินค่ำ แต่กลับโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว แจ้งตำรวจก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ อยากวิงวอนขอร้องให้ฝ่ายงานเกี่ยวข้อง มาช่วยเหลือตนและลูกสาว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมด้วย” น.ส.เอ กล่าว