เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 19 เม.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป.แถลง เสียใจอย่างสุดซึ้ง พร้อมขอโทษสังคม กรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอนาจาร และข่มขืน
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ นายจุรินทร์ สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ แม้นายปริญญ์ ยื่นใบลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรค ปชป. นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการ 2 คณะในรัฐบาลประกอบด้วย 1.ประธานกรรมการส่งเสริมการเท่าเทียมระหว่างเพศ และ 2.ประธานคณะกรรมการระดับชาติส่งเสริมสถานภาพสตรีเพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมผู้สื่อข่าวจะรายงานความคืบหน้าต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ นายจุรินทร์ ได้นำคณะกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน, นายนิพนธ์ บุญญามณี พร้อมด้วยรัฐมนตรีของพรรคร่วมแถลงข่าว
โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และขอกราบขอโทษต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ในสิ่งที่เกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของพรรค ในฐานะหัวหน้าพรรค ตนมีส่วนสำคัญในการนำนายปริญญ์เข้าพรรค แม้กระบวนการจะต้องผ่านการพิจารณาของกรรมการบริหารพรรค และผ่านการลงคะแนนให้ความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคก็ตาม หรือแม้แต่กรณีที่เราไม่อาจทราบล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเกิดในยุคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค ก็หนีไม่ที่ตนจะต้องรับผิดชอบ และหนีไม่พ้นที่ตนต้องร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรค แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด
นายจุรินทร์ ยืนยันพรรค ปชป. มีจุดยืนชัดเจนในการต่อต้านการคุกคามทางเพศ ต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี คนในครอบครัว และการเลือกปฏิบัติเพราะเหตุความแตกต่างระหว่างเพศ สำหรับกรณีปริญญ์พรรคจะไม่เข้าไปปกป้อง ขณะเดียวกันพรรคจะไม่เข้าไปแทรกแซงใดๆ ในกระบวนการยุติธรรม และพรรคจะไม่เพิกเฉยดูดายต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะดำเนินการ
1.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น แม้นายปริญญ์ลาออกจากพรรคและสมาชิกพรรคแล้วก็ตาม โดยคณะกรรมการมีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กำหนดมาตรการป้องกัน ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในพรรค รวมถึงแก้ปัญหาและเยียวยาผู้เสียหาย โดยมอบหมายให้ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก คณะกรรมการบริหารพรรค เป็นประธานคณะทำงาน
2.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีการโพสต์ในกลุ่มไลน์ของพรรค โดยมอบให้ นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่ตนดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ 2 ชุดในรัฐบาล ตนขอลาออกทั้ง 2 ตำแหน่งคือ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายสตรีแห่งชาติ โดยจะเรียนให้นายกฯ ทราบในที่ประชุม ครม.ต่อไป
เมื่อถามว่า ตั้งแต่เป็นหัวหน้าพรรคพูดได้หรือไม่ว่า กรณีนายปริญญ์ทำให้พรรคได้รับผลกระทบมาก นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะที่ตนดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ต้องถือว่าทำให้พรรคได้รับผลกระทบและส่งผลกระทบความเสียหายมากทีเดียว
เมื่อถามว่าทำไมถึงเพิ่งออกมาชี้แจง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว ตั้งแต่ต้น แต่อาจไม่เป็นประเด็นใหญ่ และตนอยู่ในช่วงไปปฏิบัติภารกิจในต่างจังหวัด แต่ได้มอบหมายบุคลากรของพรรคออกมาแถลงข่าวหลายครั้งก่อนหน้านี้
เมื่อถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะทำให้ผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นไปโดยลำบากหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่าตนไม่สามารถตอบใด แต่ตราบใดที่เป็นหนัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ ต้องผลักดันให้พรรคเดินต่อไปข้างหน้า และเมื่อมีอุปสรรคต้องแก้ปัญหา เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง เราต้องทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ และหวังว่าในอนาคตจะได้รับเสียงตอบรับที่ดีขึ้นจากคนไทยทั้งประเทศ แต่สถานการณ์นี้อาจทำให้พรรคได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะตนที่จะต้องผ่านมันไปให้ได้ โดยจะขับเคลื่อนพรรคไปในทิศทางที่ดีที่สุด
เมื่อถามว่ามีกระแสสังคมเรียกร้องให้ คณะกรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรคแสดงความรับผิดชอบ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราได้ไตร่ตรอง 2 แนวทาง แต่สุดท้ายก็มี 2 มุม หากอยู่ๆ ก็ลาออกแล้วทิ้งปัญหาไว้จะเป็นการหนีปัญหา นั่นคือความไม่รับผิดชอบ เราต้องแก้ปัญหาให้ลุล่วง ไม่ใช่ทิ้งปัญหาให้คนรุ่นหลัง
เมื่อถามว่าทราบว่า มีการเตือนว่าไม่ควรรับนายปริญญ์เข้าพรรคทำไมยังรับเข้ามา ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามีพฤติกรรมอย่างไร นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่ขอย้อนไปพูดในเรื่องจะไปพาดพิงถึงใครก็ตาม แต่ขอเรียนว่า ตนมีส่วนสำคัญในการพานายปริญญ์เข้ามาในพรรค ซึ่งตนต้องรับผิดชอบ และเป็นบทเรียนในการคัดคนเข้าพรรคในอนาคตควรจะแก้ไขอย่างไรบ้าง นอกเหนือจาก 21 ข้อ ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งต่อไปพรรคต้องเข้มงวดมากขึ้นในการตรวจสอบคุณสมบัติ และคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นในพรรค เพราะพรรคเป็นเอกภาพ การถกเถียงกันก็เป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามถึงผลกระทบต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทางพรรคจะแก้สถานการณ์อย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่รองผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก.ของพรรค ตัวผู้สมัคร และทีมงาน ในการดำเนินการ ส่วนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในพรรคจะเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้ ส่วนผลจะออกมาอย่างไร มั่นใจว่าทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ส่วนผลโพลที่ออกมานั้นก็มีทั้งบวกและลบ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามว่าคิดว่าเก้าอี้หัวหน้าพรรคสั่นคลอนเพราะเรื่องนายปริญญ์หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า หลักของตนคือเน้นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด เมื่อได้ทำหน้าที่ ส่วนเก้าอี้สั่นคลอนหรือไม่ ไม่ขอตอบ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเกมการเมืองหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง แต่ตนไม่ขอให้ความเห็นกับคำถามนี้.