จากกรณี พระมหานรินธร ปสนฺโน หรือหลวงตาสุจ อายุ 60 ปี พระนักเทศน์สายฮาชื่อดังแห่งอีสานใต้ ซึ่งเคยจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าโคกคฤห์ ต.ป่าชัน อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กตัวเอง ด้วยการด่าชาวจังหวัดสุรินทร์เป็นภาษาเขมร ทำนองว่าต้องการให้ กัมพูชา เข้ามารุกรานประเทศไทย จนทำให้ชาวสุรินทร์ต่างไม่พอใจในการกระทำดังกล่าว ภายหลัง “นายฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียโดยยกย่อง “หลวงตาสุจ” แล้วยังพร้อมดูแล และขอให้เดินทางเข้ามายังประเทศกัมพูชา

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ วัดป่าโคกคฤห์ ต.ป่าชัน อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ที่หลวงตาสุจ เคยจำวัดอยู่ ปรากฏว่าไม่มีพระจำวัดอยู่แม้แต่รูปเดียว หลังจากก่อนหน้านี้จำวัดอยู่ 1 รูป ส่วนหลัง หลวงตาสุจ เดินสายไปต่างประเทศยังไม่กลับมาแต่อย่างใด ขณะเดียวกันมีชาวบ้านในพื้นที่ที่ทราบข่าวเกี่ยวกับ หลวงตาสุจ ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก


โดย นางสายยวน จัดทัน อายุ 63 ปี ชาวบ้านมะมัง หมู่ที่ 1 ต.ป่าชัน กล่าวว่า ถ้าฝ่ายกัมพูชาอยากจะรับหลวงตาไปดูแล ก็ให้ทำได้เลย และหลวงตาไม่ควรกลับมาในพื้นที่อีก เนื่องจากไม่สำนึกบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่ชาวบ้านใส่บาตรให้ ถ้ากลับเข้ามาจะใช้รองเท้าตบหน้า เพราะถือเป็นคนเนรคุณประเทศบ้านเกิด

เช่นเดียวกับ นายอวบ เสาะหาด้าย อายุ 53 ปี สมาชิก อบต. หมู่ที่ 1 บ้านมะมัง ต.ป่าชัน กล่าวถึง หลวงตาสุจ ว่าให้อยู่ฝั่งกัมพูชาไปเลย ไม่ต้องกลับมาเมืองไทย หากกลับมาก็คงไม่มีใครต้อนรับอย่างแน่นอน
