สำนัข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ว่าสืบเนื่องจากการที่กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เครื่องบินขับไล่เจ-15 ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ( พีแอลเอ ) ทะยานขึ้นจากเรือบรรรทุกเครื่องบิน “ซานตง” แล้วบินเข้าประชิดเครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล “พี-3 โอไรออน” ของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น ( เจเอสดีเอฟ ) เหนือมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นเวลา 40 นาที เมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิ.ย.
ขณะที่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 มิ.ย.โดยพีแอลเอส่งเครื่องบินเจ-15 สองลำ ติดตามเครื่องบินตรวจการณ์ของญี่ปุ่น เป็นเวลานานราว 80 นาที นอกจากนี้ เครื่องบินของจีนบินตัดผ่านน่านฟ้า ห่างจากเครื่องบินพี-3 โอไรออน ของญี่ปุ่น เพียง 900 เมตร ในวันเดียวกัน ซึ่งญี่ปุ่นเชื่อว่า “ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่เจตนา”
Japan says Chinese fighter jet came within 150 feet of surveillance plane above Pacific. @BradLendon has more:https://t.co/eZZwEMt5gY
— CNN Asia Pacific PR (@cnnasiapr) June 13, 2025
ด้านนายหลิน เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า การลาดตระเวนในระยะประชิดของเครื่องบินรบญี่ปุ่น ที่มีต่อกิจกรรมทางทหารปกติของจีน เป็นต้นตอของความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางทะเลและทางอากาศ พร้อมทั้งขอให้อีกฝ่ายยุติพฤติกรรมดังกล่าว และรัฐบาลปักกิ่ง “แสดงจุดยืน” ผ่านช่องทางการทูตกับอีกฝ่าย
นายเกน นากาทานิ รมว.กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ญี่ปุ่นมีท่าทีและแสดงออกซึ่งเจตจำนงอย่างชัดเจน ในการยับยั้งความพยายามของฝ่ายใดก็ตาม ที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะโดยใช้กำลัง การที่จีนกล่าวหาญี่ปุ่น “เป็นต้นเหตุ” เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และมีการร้องเรียนผ่านช่องทางการทูตอย่างเป็นทางการแล้ว.
เครดิตภาพ : AFP