เมื่อวันที่่ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (13มิ.ย.68) ตำรวจกองปราบปรามนำกำลังบุกเข้าจับกุม นายนที (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชาวจ.พัทลุง ค่าหัว 1 แสนบาท ของบัญชีหมายจับตามปฏิทินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2566 ลำดับที่ 255 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยจับกุมได้ที่หน้าศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก ช่วงปลายปี 2565 ผู้ต้องหาได้สร้างกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “X POWER TEAM” ที่มีการเผยแพร่เนื้อหาเชิญชวนประชาชนทั่วไป ให้มาร่วมลงทุนในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) โดยอ้างว่าสามารถการันตีผลกำไรในอัตราสูงถึงร้อยละ 20–35 และมีรูปแบบการจ่ายผลตอบแทน 2 ลักษณะ ได้แก่ การจ่ายรายเดือน ซึ่งกำหนดเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 15,000 บาท และการจ่ายรายสัปดาห์ โดยกำหนดเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 300,000 บาท พร้อมทั้งเรียกเก็บค่าบริการในอัตราร้อยละ 25 ของกำไรที่ได้รับ
นอกจากนี้ ยังมีการจัดโปรโมชันเพื่อจูงใจให้ลงทุน เช่น การมอบของสมนาคุณตามระดับเงินลงทุน หากลงทุนตั้งแต่ 3,000 ถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะได้รับสิ่งของมีมูลค่า เช่น นาฬิกา iPad หรือของใช้แบรนด์เนมอื่น ๆ โดยมีการจัดทำเอกสารสัญญาการลงทุนตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

ทั้งนี้ กลุ่ม “X POWER TEAM” ได้แสดงตนว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการลงทุน และมีฐานะเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมและอพาร์ตเมนต์หลายแห่ง โดยมีการโพสต์ภาพแสดงการใช้ชีวิตหรูหรา พร้อมทรัพย์สินมีมูลค่าสูงผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ดูน่าเชื่อถือและหลอกลวงให้ประชาชนหลงเชื่อร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีผู้ร่วมลงทุนมากกว่า 100 ราย โดยในช่วงแรกกลุ่มผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง
อย่างไรก็ตาม กลุ่ม “X POWER TEAM” ได้ดำเนินกิจการในลักษณะดังกล่าวประมาณ 7 เดือน กระทั่งต้นปี 2566 เริ่มไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ตามสัญญา มีการอ้างว่า ถูกเจ้าหน้าที่รัฐตรวจสอบและมีปัญหาเรื่องภาษี อีกทั้งยังไม่สามารถแสดงข้อมูลบัญชีการลงทุนให้ผู้เสียหายตรวจสอบได้ ส่งผลให้ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงได้รวมตัวแจ้งความร้องทุกข์ต่อ บก.สอท.1 มีผู้เสียหายกว่า 40 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

จากการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า กลุ่ม “X POWER TEAM” ไม่ได้นำเงินลงทุนของประชาชนไปใช้ในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามที่กล่าวอ้าง แต่มีพฤติการณ์นำเงินของผู้เสียหายรายใหม่หมุนเวียนไปจ่ายคืนให้กับผู้เสียหายรายเดิมในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและจูงใจให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

คดีนี้ภายหลังการรวบรวมพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย และสามารถจับกุมได้แล้ว 2 รายคือ น.ส.อรทัย อายุ 58 ปี และนายธเนศ ายุ 26 ปี เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2566 และวันที่ 1 เม.ย. 2566 ยังคงเหลือ “นายนที” ผู้ต้องหาหลัก ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่ม และหลบหนีการจับกุมมาโดยตลอด ด้วยเหตุที่ยากแก่การติดตามตัว นายนที จึงถูกขึ้นบัญชีหมายจับตามปฏิทินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2566 ลำดับที่ 255
จนกระทั่งตำรวจกองปราบ ทราบว่า แอบมาเปิดร้านอาหารอยู่ในศูนย์การค้าย่านรามคำแหง 2 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยหนีไปกบดานใน จ.สงขลา จ.พัทลุง และจ.พิษณุโลก มาก่อน จากการสอบสวน นายนที ให้การรับสารภาพ ว่าเอาเงินไปหมุนก่อนหลบหนี และได้ชดใช้ให้ผู้เสียหายบางส่วนไปแล้ว จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.