น.ส.เจ๊ง ย่งซือ ประธานสถาบันวิจัยชาวจีนโพ้นทะเลแห่งเมือง เซินเจิ้น และประธานกลุ่มบริษัท OCTF เปิดเผยว่า ปีนี้ได้จับมือกับภาครัฐและเอกชนของไทยและจีน งานแสดงเทคโนโลยีอัจฉริยะ OCTF ครั้งที่ 2 ประจำปี 2568 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อตอกย้ำความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่างไทย–จีน และยกระดับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมกับร่วมลงนามในโครงการ “ร้อยคณะ พันบริษัท หมื่นรายการสินค้า” เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายพันธมิตรการค้าระดับโลก

การจัดแสดงนิทรรศการ OCTF ถือเป็นเวทีความร่วมมือระดับนานาชาติ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการกว่า 6,000 รายได้แลกเปลี่ยนนวัตกรรมและวิสัยทัศน์ร่วมกัน งานนี้ไม่เพียงนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ยังมุ่งเน้นการเติบโตร่วมกันของไทยและจีน ทั้งในมิติทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีสีเขียวและพลังงานสะอาด ซึ่งสะท้อนถึงความรับผิดชอบร่วมกันต่อสังคมและโลกใบนี้

“ก่อนหน้านี้ได้มีการจัดงานดังกล่าวขึ้นแล้วเมื่อปี 2566 ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้ามาจัดแสดงสินค้าสามารถต่อยอดด้านการลงทุนได้อย่างน่าพอใจ ทำให้ปีนี้เล็งเห็นโอกาสในการนำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและไฮเทคที่สุดมาโชว์ในงาน ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้เป็นที่รู้จักและต่อยอดทางธุรกิจได้มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีที่ใช้ไฟน้อยในการควบคุมดูแลเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตซึ่งคาดว่างานนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีรายได้รวมถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ“

นายชุน ไพลินดีเลิศ นายกสมาคมนักธุรกิจยุคใหม่ไทย-จีน กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไทยมีนโยบายเชิญชวนบริษัทจีนเข้ามาลงทุนในประเทศทั้งในธุรกิจไอที เทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงด้านพลังงานสีเขียวจำนวนมาก ฉะนั้นงานในครั้งนี้จึงถือเป็นสะพานที่ช่วยสร้างพื้นที่ให้กับบริษัทไอทีต่างๆเข้ามาในไทยและเปิดให้โอกาสกับผู้ประกอบการไทยได้มีการร่วมมือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันถึง 76 คูหา

นอกจากนี้ ยังถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และยังเปิดโอกาสให้บริษัทจากเซินเจิ้นได้เข้ามาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นเวทีให้เยาวชนจากสถาบันการศึกษาไทย ทั้งระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ได้มีโอกาสเรียนรู้และแลกเปลี่ยนมุมมองกับนักธุรกิจและนักพัฒนาจากจีน เป็นการจุดประกายวิสัยทัศน์ใหม่ๆ จากอนาคตของชาติ

ภายในงานได้แบ่งพื้นที่จัดแสดงเป็น 4 โซนหลัก ได้แก่
1️ โซนโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวและดิจิทัล
2️ โซนแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคสู่ตลาดสากล
3️ โซนบริการที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
4️ Thailand Pavilion – พื้นที่แสดงศักยภาพของบริษัทไทยด้านสมาร์ทซิตี้และอุตสาหกรรม 4.0

ขณะเดียวกัน ยังร่วมแสดงสินค้าและเทคโนโลยีหลากหลาย อาทิ Jinlight (เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ), Xinneng Yizhan (สุขภาพดิจิทัลผสานดนตรีบำบัด), Hefu New Materials (วัสดุอิเล็กทรอนิกส์), Xingfa Aluminium (อลูมิเนียม), Jiuxuewang (เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา), และ Xiadan Technology (โซลูชันโต้ตอบภาพและวิดีโออัจฉริยะ)

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเสวนาและจับคู่ธุรกิจภายใต้หัวข้อ “อุตสาหกรรมอัจฉริยะกับเมืองสีเขียว” และ “โลกาภิวัตน์การบริโภคกับวัฒนธรรม” ในวันที่ 12 มิถุนายน เพื่อเปิดเวทีให้ผู้ประกอบการไทยและต่างชาติได้สร้างเครือข่ายใหม่และขยายโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน