เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงข้อสั่งการของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ที่กำชับให้ สพฐ. วิเคราะห์การย้ายเข้าย้ายออกของนักเรียนในกลุ่มโรงเรียนสังกัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนเอกชน โรงเรียนนานาชาติ เพื่อรวบรวมข้อมูลว่ามีนักเรียนสังกัด สพฐ. ย้ายออกไปเรียนที่อื่นจำนวนกี่ราย และสาเหตุการย้ายมาจากอะไร และนำข้อมูลเหล่านี้มาสรุปเปรียบเทียบการพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ปกครองถึงการเลือกโรงเรียนให้แก่บุตรหลานของตัวเองเป็นอย่างไร
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ติดตามเกณฑ์การสอบคัดเลือกบุคลากรทางการศึกษามาตรา 38 ค (2) ของโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ จำนวน 432 ตำแหน่ง ซึ่งที่ผ่านมาตำแหน่งดังกล่าว ติดปัญหาเรื่องหลักเกณฑ์การบรรจุที่ไม่ลงตัว แต่ขณะนี้ สพฐ. ได้แก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว และจะนำเข้าที่ประชุม คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาและกำหนดปฏิทินการสอบคัดเลือกต่อไป ซึ่งคาดว่าปฏิทินการจัดสอบจะดำเนินการภายในเดือน ก.ค. นี้ โดยจะบรรจุผู้สอบคัดเลือกผ่านเกณฑ์ได้ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2568 นี้ทันที เพื่อให้เกิดการพัฒนาการศึกษาที่เข้มแข็ง ตลอดจนการสร้างเครือข่ายเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนอื่นๆ โดยให้โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ เป็นพี่เลี้ยงในการพัฒนาและแบ่งปันทรัพยากรที่มี รวมถึงบุคลากรที่มีคุณภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนเครือข่ายสู่มาตรฐานสากล
‘ในการประชุมดังกล่าว ได้มีการนำเสนอผลงานของแต่ละสำนักภายในสังกัด สพฐ. และของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ที่มีผลงานโดดเด่นในรอบ 1 ปี 6 เดือน ซึ่งผลงานที่แต่ละหน่วยงานนำมาเสนอ มีการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาตามนโยบายเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะเขตพื้นที่ที่นำร่องยกระดับคุณภาพการศึกษาตามแนวทางการประเมินผลนักเรียนระดับนานาชาติ หรือ พิซา’ เลขาธิการ กพฐ. กล่าว