สืบเนื่องจากกรณี พระจำนงค์ ธมฺมจารี หรืออดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัดเมื่อปี 2561 เดินทางกลับสู่ประเทศไทย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังลี้ภัยอยู่ที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นาน 7 ปี เข้ามอบตัวต่อสู้คดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ก่อนยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวน และจะดำเนินการจัดทำเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์ส่งพนักงานสอบสวนภายใน 2 สัปดาห์ ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. “ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์” ตรวจสอบข้อมูลไปยังสำนักงาน ปปง. ทราบว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2561 คณะกรรมการธุรกรรมในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งที่ ย.82/2561 อายัดทรัพย์สินประเภทเงินฝากอดีตพระผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินงบประมาณอุดหนุนบูรณะซ่อมแซม เพื่อการศึกษาพระปริยัติธรรม และเพื่อการเผยแผ่ดำเนินกิจกรรมทางศาสนา (เงินทอนวัด) จำนวน 4 ราย ได้แก่ 1.พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขโข) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร จำนวน 7 บัญชี วงเงิน 132.8 ล้านบาท 2.พระพรหมเมธี 1 บัญชี จำนวน 162,151.76 บาท 3.พระพรหมดิลก 1 บัญชี จำนวน 1,745,953.37 บาท 4.พระวิจิตรธรรมาภรณ์ (เทอด วงศ์ชอุ่ม) 1 บัญชี วงเงิน 27,876.08 บาท รวมทั้งสิ้น 10 บัญชี 134,793,505.17 บาท

อย่างไรก็ดี ในส่วนของพระพรหมเมธี ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรม ได้มีคำสั่งยึดและอายัด 1 บัญชี จำนวน 162,151.76 บาทนั้น คือ รายการเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารธนชาตจำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 2162084845 (ณ วันที่ 19 เม.ย.2561)
ส่วนของพระพรหมเมธี ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรม ได้มีคำสั่งยึดและอายัด 1 บัญชี จำนวน 162,151.76 บาทนั้น ล่าสุดประมาณปี 2563 ศาลแพ่งมีคำสั่งให้ทรัพย์สินมูลค่าดังกล่าวนี้ตกเป็นของแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากในข้อเท็จจริงพบพฤติการณ์รับโอนเงิน จำนวน 5,000,000 บาท ซึ่งนิติกรรมส่วนนี้เป็นเงินเกี่ยวข้องกับโรงเรียนพระปริยัติธรรม แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า วัดของพระพรหมเมธี ไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาสังกัดหรือตั้งอยู่ จึงเป็นการสมคบกันกระทำความผิดเพื่อเบียดบังเอาเงินงบประมาณของ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไปเป็นประโยชน์ส่วนตนหรือของบุคคลที่สามโดยทุจริต เพราะเงินไปเข้ารายการลับโดยมิชอบ อย่างไรก็ตาม คดีได้ถึงที่สุดไปแล้ว เนื่องจากในตอนที่เจ้าหน้าที่ ปปง. ให้ผู้เกี่ยวข้องได้รายงานที่มาที่ไปของเส้นเงินดังกล่าว เจ้าตัวได้ขอลี้ภัยออกจากราชอาณาจักรไทย จึงไม่ได้มีการเข้ามาชี้แจง ซึ่งยอดเงิน 1.6 แสนบาท เป็นทรัพย์เพียงรายการเดียว ที่มีอยู่ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ในช่วงเวลานั้น ศาลจึงมีคำสั่งให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน.