เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ศูนย์วิทยุกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูจันทบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้รถบรรทุกตู้คอนเทเนอร์บนถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ขาออกเมือง ช่วงบริเวณโค้งโป่งโรงเซ็น ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี หลังรับแจ้งได้ประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลปัถวี สนับสนุนร่วมเดินทางตรวจสอบและให้การช่วยเหลือดับไฟ

ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วงตู้คอนเทเนอร์เย็นอยู่ในสภาพถูกไฟไหม้ลุกลามอยู่บริเวณล้อหลังทั้ง 12 ล้อ โดยไฟกำลังไหม้ลุกลามขึ้นไปบนตัวตู้คอนเทเนอร์ ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มควันขนาดใหญ่ และมีกลิ่นเหม็นรุนแรง ลอยพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า โดยมีรถดับเพลิงเทศบาลตำบลปัถวี ร่วมกับอาสากู้ภัยฯ ช่วยเร่งฉีดน้ำสกัด ส่วนหัวลากเป็นรถฮีโน่สีม่วง ทะเบียนป้ายเหลือง 72-2751 พระนครศรีอยุธยา คนขับสามารถถอดท้ายออกจากตู้ได้ทัน โดยนำไปจอดใกล้กับแผงรับซื้อมังคุดริมทางประมาณ 50 เมตร โดยทางเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานร่วมกว่า 20 นาที จึงสามารถดับเพลิงได้สำเร็จ แต่ยังต้องคอยฉีดน้ำพรมเข้าไปที่ใต้ท้องรถ เนื่องจากยังมีเปลวไฟปะทุกขึ้นมาจากยางรถอีกเป็นระยะ ขณะที่พนักงานป้องกันฉีดน้ำเข้าใส่ตู้คอนเทเนอร์ โครงสร้างตู้ซึ่งมีฉนวนกันความเย็นเกิดการเปลี่ยนรูปส่งเสียงดังปะทุลั่นออกมาจากข้างในและกลุ่มควันลอยออกมาตลอดเวลาเนื่องจากตัวครัชซีและฐานรองรับตลอดจนตู้คอนเทเนอร์มีความร้อนสูง

จากการสอบถาม นายเดชขจร ทำทอง อายุ 45 ปี ชาว อ.เมือง จ.ชลบุรี คนขับเล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ขับรถบรรทุกตู้คอนเทเนอร์เย็นบรรทุกทุเรียนน้ำหนักรวมกว่า 20 ตัน มาจากล้งแห่งหนึ่ง ใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี กำลังจะนำไปส่งที่จ.นครพนม เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงยางระเบิดดังมาจากล้อหลังดังสนั่นจึงพยายามประคองรถเข้าจอดข้างทางหาจุดจอดที่ปลอดภัย เมื่อลงมาดูก็พบว่ายางล้อหลังฝั่งขวาแตกและมีเพลิงกำลังไหม้ จึงพยายามนำถังน้ำมาสาดดับไฟ แต่เนื่องจากยางรถที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้ไฟไหม้ลุกลามไปติดล้อที่เหลือและเปลวไฟยังลามเข้าไปที่ใต้ท้องและตัวตู้คอนเทเนอร์ จึงได้โทรขอความช่วยเหลือจากทางอาสากู้ภัยฯ ช่วยประสานรถดับเพลิงมาช่วยดับไฟได้ทันก่อนที่จะรับปลดหัวลากออกจากตู้นำไปจอดห่างจากที่เกิดเหตุ

อย่างไรก็ตามหลังเพลิงสงบได้ทำการเปิดตู้ตรวจสอบพบว่าทุเรียนด้านในไม่ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นได้รีบโทรแจ้งประกันมาตรวจสอบ พร้อมนำหัวลอกมาต่อไฟเพื่อเปิดเครื่องทำความเย็น ระหว่างติดต่อรถคอนเทเนอร์เย็นอีกคันมาถ่ายของเพื่อป้องกันทุเรียนมูลค่ากว่า 2 ล้านเสียหาย