เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.68 พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลหารราบที่ 9 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ร่วมบูรณาการกับ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และ พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี หลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามายังพื้นที่ตอนใน โดยใช้เส้นทางหมายเลข 323 อ.สังขละบุรี มุ่งหน้า อ.ทองผาภูมิ จึงสั่งการให้ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พร้อมด้วย พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ นำกำลังพลร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 สภ.ทองผาภูมิ และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ สกัดจับ

ต่อมา เวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่สังเกตพบรถยนต์ลักษณะตามที่ได้รับแจ้งจากสายข่าว จึงได้ทำการติดตามไปจนกระทั่งถึงบริเวณหน้ารีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านองธิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและให้สัญญาณหยุดรถ เพื่อทำการตรวจสอบ พบ นายอดิศักดิ์ เป็นผู้ขับรถกระบะ ทะเบียน บห 1759 สกลนคร เจ้าหน้าที่สังเกตพบพิรุธชัดเจน จึงได้ขอทำการตรวจสอบตู้ทึบด้านท้ายรถกระบะคันดังกล่าว พบกลุ่มบุคคลลักษณะคล้ายต่างด้าวสัญชาติเมียนมา อัดแน่นเต็มคันรถ จำนวนทั้งสิ้น 48 คน (ชาย 31 คน, หญิง 17 คน) จึงขอทำการตรวจสอบเอกสารประจำตัวที่ทางราชการออกให้ แต่กลุ่มบุคคลต่างด้าวดังกล่าวไม่สามารถแสดงเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ได้

จากการซักถาม นายอดิศักดิ์ ให้การว่า แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายกลุ่มดังกล่าว เดินทางมาจาก อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา ต้องการเข้ามาทำงานในประเทศไทย จึงได้จ่ายค่าจ้างให้กับนายหน้า 10,000 – 15,000 บาท จ่ายเมื่อถึงปลายทาง เพื่อเป็นค่าจ้างนำพาหลบหนีเข้ามาทำงานในพื้นที่ตอนใน โดยกลุ่มต่างด้าวผิดกฎหมายเดินเท้าจาก บ้านบ่อญี่ปุ่น มาตามเส้นทางอ้อมหลังจุดตรวจร่วมน้ำเกริ๊ก หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จากนั้นมีบุคคลไม่ทราบชื่อขับรถยนต์มารับไปส่งยังจุดลงเรือ บริเวณ ท่าเรือ ซอย 4 บ.ดงสัก ต.หนองลู อ.สังขละบุรี และขึ้นฝั่งที่ บ.เกริงกระเวีย หมู่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จากนั้นนายอดิศักดิ์ ขับรถกระบะตู้ทึบคันที่ถูกจับกุม มารับกลุ่มต่างด้าวผิดกฎหมาย เพื่อไปส่งในพื้นที่ อ.เมืองกาญจนบุรี แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถจับกุมได้เสียก่อน จึงได้ทำการส่งตัวผู้กระทำความผิดทั้ง 49 คน พร้อมของกลาง ส่งให้ สภ.ทองผาภูมิ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.