เมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 6 มิ.ย. 68 ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับเหตุหญิงสาวต่างชาติถูกคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนพยายามจี้ชิงทรัพย์ เหตุเกิดอยู่บริเวณริมสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม หลังร้านอาหารระเบียงพัชนี ถนนศุภกิจจรรยา เทศบาลนครอุกรธานี หลังรับแจ้งเหตุ ร.ต.อ.ธนวัฒน์ สรวงศิริ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังสายตรวจ 191 และผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน เขตงานธีรจิตร รุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าผู้เสียหายได้เดินมาพร้อมกับพลเมืองดี เพื่อรอเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณสะพานปูน ถนนเทศา หลังจวนผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ทราบชื่อผู้เสียหายภายหลังว่า น.ส.ซูซานนา นาตาเลีย อายุ 29 ปี สัญชาติ โปแลนด์ ยืนรอให้การข้าง น.ส.เวรุกา โพธิ์เดช อายุ 27 ปี ครูพิเศษ วิทยาลัยอาชีวะศึกษาอุดรธานี พลเมืองดี โดยมีนายโจเซฟ อายุ 23 ปี หนุ่มผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานเขตงานธีรจิตร ลูกครึ่งอังกฤษ พยายามสอบถามถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หลังจากนั้น ร.ต.อ.ธนวัฒน์ สรวงศิริ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้นำตัว น.ส.ซูซานนา ผู้เสียหาย ขึ้นรถตราโล่ไปแจ้งความเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองอุดรธานี กับ ร.ต.ท.ทรงภพ คำใจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ก่อนที่จะประสานตำรวจท่องเที่ยวอุดรธานี เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้นพบว่า คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คน ใช้อาวุธปืนพยายามจี้ชิงทรัพย์ผู้เสียหาย แต่ในกระเป๋าย่ามผู้เสียหายไม่มีของมีค่า คนร้ายจึงพยายามข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินจากแอปพลิเคชั่น แต่ก็ทำไม่สำเร็จ จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายพากันหลบหนีไป

น.ส.เวรุกา โพธิ์เดช พลเมืองดี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนไปกินหมูกระทะมา แล้วมาเดินย่อยที่หนองประจักษ์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ก็เห็นผู้หญิงต่างชาติกรี๊ดลั่นออกมา ตนมองไปก็เห็นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คน ใช้อาวุธปืนจี้ผู้หญิง แล้วก็ช่วยกันกระชากกระเป๋าย่ามและค้นหาสิ่งของมีค่า เมื่อคนร้ายค้นแล้วไม่เห็นของมีค่าก็ส่งกระเป๋าคืนไป แล้งเขาก็ขี่รถไป สาวต่างชาติก็เดินมาตามทาง จนถึงโค้งหลัง รร.เทศบาล 2 คนร้ายก็ขี่รถย้อนกลับมาหาอีกครั้งหนึ่ง ค้นกระเป๋าอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่เจออะไร
“ต่อจากนั้นคนร้ายได้บังคับให้โอนเงินจากโทรศัพท์ผู้เสียหายให้ แต่ก็ไม่ได้โอนเงินให้ แต่ก็ไม่ได้อะไรไป เพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง แม้ผู้เสียหายจะเอากระเป๋าเงินให้ เอาโทรศัพท์ให้คนร้าย แต่เขาก็ปลดล็อกโทรศัพท์ไม่ได้ คนร้ายที่เป็นคนขับรถใส่เสื้อคลุมสีดำ คนซ้อนใส่เสื้อคลุมสีขาว จึงคืนของให้ผู้เสียหายทั้งหมด แล้วก็ขี่รถจักยานยนต์หลบหนีไป”

ด้านนายโจเซฟ ผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน เขตงานธีรจิตร เล่าว่า จากการสอบผู้เสียหาย เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นที่มืด แสงสว่างไม่เพียงพอ เห็นคล้ายกับคนร้ายขับรถจักรยานยนต์สีแดง คล้ายกับรถยี่ห้อยามาฮ่า ฟีลาโน่ หรือฮอนด้า สกู๊ปปี้ โดยคนร้ายมีปืน แต่ไม่รู้ว่าเป็นของจริงหรือหรือของปลอม หลังจากที่คนร้ายไม่ได้ของมีค่าไป ก็พากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี เลี้ยวซ้ายบนถนนเทศา แล้วไปทางโรงเรียนเทศบาล 2
เบื้องต้นทางตำรวจท่องเที่ยวจะได้เชิญผู้เสียหายมาทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะประสานตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.