กรณีเหตุน้ำมันดิบชนิด Murban oil รั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมันดิบ VLCC ชื่อเรือ MT PHONIX JAMNAGAR ขนาด 20 ตัน ที่บริเวนทุ่น Tier 1 ห่างจากฝั่งศรีราชา จ.ชลบุรี ประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเขตนอกท่าเรือ โดยการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า น้ำมันดิบรั่วไหลและมีแนวโน้มเคลื่อนที่ขึ้นไปทางทิศเหนือ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

‘ไทยออยล์’ แจงปมเรือน้ำมันรั่วกลางทะเล ยันเป็นเหตุสุดวิสัย ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว

ระทึก! เรือบรรทุก 2 หมื่นตันน้ำมันดิบรั่ว ห่างชายฝั่งศรีราชาแค่ 6 กิโล

ล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้ออกหนังสือชี้แจง ฉบับที่ 2 โดยระบุว่า ตามที่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งเหตุน้ำมันดิบรั่วไหล บริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 5 มิ.ย. 68 โดยบริษัทฯ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ ตามแผนบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินของบริษัทฯ ตั้งแต่เกิดเหตุแล้วนั้น บริษัทฯ ขอแจ้งให้ทราบความคืบหน้าว่า สถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล (SBM-2) คลี่คลายแล้ว โดยมีปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลประมาณ 8,000 ลิตร และมีเพียงบางส่วนที่หลุดออกจากแนวบูม หลังจากได้ทำการขจัดคราบน้ำมัน ศูนย์ประสานงานการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และอธิบดีกรมเจ้าท่าได้สำรวจทั้งทางอากาศ และ เรือลาดตระเวนบริเวณพื้นที่เกิดเหตุโดยรอบเกาะสีชัง เกาะค้างคาว รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 6 มิ.ย. 68 แล้ว ไม่พบคราบน้ำมัน และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมเป็นที่เรียบร้อย ด้วยความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทุกภาคส่วน และได้ยุติศูนย์ประสานงานการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เมื่อเวลา 17.00 น.

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะยังคงมีการเฝ้าระวังและสำรวจคราบน้ำมันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดเตรียมกำลังพลและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ สำหรับแก้ไขสถานการณ์หากพบเห็นคราบน้ำมัน บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินเครื่องของโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทฯ

บริษัทฯ ขอขอบคุณการสนับสนุนและความร่วมมือเป็นอย่างดี ของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ทัพเรือภาคที่ 1 กรมเจ้าท่า กรมควบคุมมลพิษ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี กองบังคับการตำรวจน้ำ ท่าเรือแหลมฉบัง ภาคีเครือข่ายจากสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ รวมถึงสื่อมวลชนที่ช่วยเผยแพร่ข่าวสารที่ถูกต้องให้สาธารณชนได้รับทราบ.