เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนพาหญิงชรารายหนึ่งเข้าร้องขอความช่วยเหลือที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี หลังได้รับความเดือดร้อนจากการที่หญิงชราถูกลูกชายทิ้งไว้ภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง ย่านคลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด โดยผู้ที่ดูแลอยู่ในแคมป์ไม่สามารถรับภาระได้ต่อ และแคมป์กำลังจะถูกรื้อถอน ต้องย้ายออกจากพื้นที่ โดยหญิงชรารายดังกล่าวทราบชื่อ คือ “ยายบึ้ง” อายุ 76 ปี มีอาการหลงลืมจากโรคอัลไซเมอร์ ไม่สามารถเดินได้ ต้องใช้วิธีถัดก้นในการเคลื่อนไหว พูดคุยไม่รู้เรื่อง วกไปวนมา โดยพูดถึงลูกชายชื่อ “จัง” ว่าชอบดื่มสุรา และมักทะเลาะกับตนเป็นประจำ แต่ไม่เคยถูกทำร้ายร่างกาย

ภายหลังเกิดเหตุ นายพสิษฐ์ รัศมิ์พยุงกิจ หรือ กำนันไก่ กำนันตำบลบางพลับ อ.ปากเกร็ด ได้เดินทางมายัง สภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อติดตามสถานการณ์และพูดคุยกับยาย พร้อมนำอาหารมาให้รับประทาน และได้ประสานงานกับปลัดอำเภอปากเกร็ด เพื่อให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

สอบถาม น.ส.สรัลพร สังข์เงิน อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของยายบึ้ง และเป็นผู้ช่วยดูแลยายบึ้งมาตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ยายบึ้งเป็นพี่สาวของย่าตน เป็นญาติห่างๆ ซึ่งลูกชายของยายคนที่ชื่อ “จัง” เคยมาอยู่กับพ่อของตนในแคมป์ก่อสร้าง ก่อนจะถูกไล่ออกเนื่องจากติดสุราและไม่ทำงานประจำ ต่อมาเขาได้งานใหม่เป็น รปภ. และพายายไปอยู่ด้วยที่ห้องเช่าในพื้นที่ปากเกร็ด อาศัยอยู่กับเมียของเขา และยายบึ้ง แต่หลังจากอยู่ได้ไม่นาน ก็อ้างว่าเจ้าของห้องไม่ให้ยายอยู่เพราะส่งเสียงดังและมีกลิ่นตัวแรง จึงนำยายกลับมาทิ้งไว้ที่แคมป์คนงานก่อสร้าง ย่านคลองพระอุดม เมื่อช่วงสิ้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา

ตอนที่นายจัง ลูกของยายเอายายกลับมาไว้ที่แคมป์แรกๆ เขายังส่งข้าวให้ตลอด ระยะเวลาประมาณ 3-4 วัน แต่หลังจากนั้นก็หายไปเลย โทรหาไม่รับ ทักไลน์ก็ไม่ตอบ ตอนนี้พ่อของตนก็ป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่ต้องมาช่วยดูแลยายซึ่งเป็นอัลไซเมอร์ เดินไม่ได้ ต้องคลานไปมา ยายไม่มีบ้านเป็นหลักแหล่ง ถึงจะบอกว่ามีบ้านที่นครสวรรค์ แต่ไม่มีใครอยู่แล้ว ตนไม่รู้จะทำยังไง เพราะแคมป์ก็จะรื้อแล้ว เราต้องย้ายไปไซต์งานใหม่ ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร ตนเองก็มีครอบครัวและภาระที่จะต้องใช้จ่าย จึงตัดสินใจพูดคุยกับสามี นำตัวยายบึ้งขึ้นรถมาขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์

“อยากให้ลูกของเขามารับคุณยายกลับ ก็เป็นห่วง ไม่อยากให้ยายอยู่สภาพแบบนี้ ทุกคนในแคมป์ช่วยเหลือทุกอย่างแล้ว ทางหัวหน้าก็ให้ข้าวให้น้ำทุกวัน หากมีสำนึกก็ขอให้กลับมารับตัวคุณแม่ไปเลี้ยงดูต่อไป ทางคุณยายจำอะไรไม่ได้” น.ส.สรัลพร กล่าว

ส่วนทางด้านนายเจี้ยม อายุ 16 ปี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายจัง ลูกชายของยาย เคยเป็นลูกน้องของป้าตนในไซต์งาน ก่อนจะพายายมาอยู่ด้วยที่แคมป์ โดยให้เหตุผลว่าจะทำงาน แต่กลับเอาข้าวให้เพียงแค่ 3-4 วัน จากนั้นก็หายตัวไป ป้าของตนซึ่งเป็นผู้รับเหมาจึงต้องดูแลยายทุกวันโดยไม่ได้ตั้งใจ ยายบึ้งพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ชอบพูดถึงลูกชาย ถามหาว่า “จังไปไหน” แต่พวกเราติดต่อไม่ได้ ไม่มีเบอร์ มีแค่ป้าที่มีไลน์ แต่พอทักไปก็ไม่อ่านไม่ตอบ ตอนนี้เราไม่รู้จะทำยังไง ยายไม่มีที่อยู่แล้วจริงๆ

ผู้สื่อข่าวได้พยายามสื่อสาร พูดคุยกับ ยายบึ้ง ปรากฏว่า คุณยายพูดจาวกไปวนมา พูดไม่รู้เรื่อง และพูดถึงลูกชายชื่อจัง ชอบกินเหล้า เมา และเถียงกับยายบ่อย แต่ไม่เคยทำร้ายหรือตี ซึ่งคุณยายบอกว่ามีบ้านอยู่ที่นครสวรรค์ ท่าตำรวจยินดีจะไปส่งก็ยอมกลับบ้านเกิดทันที

ด้าน พ.ต.อ.วุฒิชัย สุคนธวิท ผกก.ชัยพฤกษ์ ได้สั่งการให้ร้อยเวรประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยจัดพื้นที่ให้ยายได้นั่งพักรอการดำเนินการ พร้อมอำนวยความสะดวกในทุกด้าน หากพบว่ามีการกระทำเข้าข่ายทอดทิ้งผู้สูงอายุ อาจมีการดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป.