โรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา โดยมีชาวอเมริกันกว่า 127.9 ล้านคนที่มีอายุมากกว่า 20 ปีป่วยเป็นโรคนี้ แม้ว่างานวิจัยอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้การป้องกัน ตรวจพบและรักษาโรคหัวใจได้เร็วขึ้น แต่สัญญาณของโรคหัวใจก็ไม่ได้ชัดเจนเสมอไป อย่างไรก็ตาม เมื่อร่างกายมีอาการหรือประสบภาวะ 8 อย่างดังต่อไปนี้ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้และควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจในทันที
- เจ็บหน้าอกหรือแน่นหน้าอก อาจรู้สึกเหมือนถูกกดรัดหรือมีภาวะแสบร้อนช่องอกร่วมด้วย อาการนี้อาจลามไปที่แขน คอ กราม หรือหลัง แม้ไม่ใช่การเจ็บหน้าอกทั้งหมดจะเกี่ยวกับหัวใจ แต่การละเลยอาจเป็นอันตรายได้
- หายใจลำบาก โดยเฉพาะระหว่างที่ทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ เช่น เดินขึ้นบันได แบกของ หรือนอนราบ สัญญาณนี้อาจบ่งบอกว่าเลือดไหลออกจากหัวใจไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว หรือโรคเกี่ยวกับการทำงานของลิ้นหัวใจ
- หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือใจสั่น บางครั้งอาจรู้สึกหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ โดยเฉพาะขณะออกแรง หากมีอาการใจสั่นบ่อยครั้งหรือเป็นเวลานาน อาจเป็นสัญญาณของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmias) ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง หรือภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
- ขาหรือข้อเท้าบวม เมื่อหัวใจทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร จะทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกและเกิดการคั่งของเลือดในส่วนล่างของร่างกาย เช่น น่อง ข้อเท้า ทำให้ของเหลวรั่วไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อโดยรอบจนเกิดอาการบวมที่เรียกว่า ‘ภาวะบวมน้ำ’ (Edema) หากมีอาการบวมที่ขาทั้งสองข้างและไม่ยุบลงในเวลาอันสั้น โดยเฉพาะเมื่อมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว หรืออ่อนเพลีย ควรรีบไปพบแพทย์
- ความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคหัวใจ แม้ว่าความดันโลหิตสูงมักไม่มีอาการ แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาจสร้างความเสียหายต่อหัวใจและหลอดเลือดอย่างเงียบๆ และเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือคอเลสเตอรอลสูง ควรได้รับการประเมินจากแพทย์โรคหัวใจ
- เวียนศีรษะหรืออ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการเวียนศีรษะ หน้ามืด หรืออ่อนเพลียเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาหัวใจ ซึ่งเกิดจากหัวใจไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอเนื่องจากการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ หากมีอาการสมองล้า หรือมีปัญหาในการตั้งสมาธิร่วมกับความดันโลหิตต่ำ เวียนศีรษะ หรืออ่อนเพลีย อาจต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพและการทำงานของหัวใจ
- มีปัญหาสุขภาพอื่นร่วมด้วย สภาพที่ป่วยหรือมีปัญหาสุขภาพหลายอย่างพร้อมกัน เช่น โรคไต ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (Atrial fibrillation) โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย หรือภาวะน้ำหนักเกิน/โรคอ้วน สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้
- คนในครอบครัวมีประวัติเป็นผู้ป่วยโรคหัวใจ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ควรเข้ารับการตรวจกับแพทย์โรคหัวใจเชิงป้องกัน เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาในอนาคต
ที่มา : eatingwell.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES