เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 31 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ จุดอำเภอราษีไศล ได้รับแจ้งเหตุเด็กจมน้ำสูญหาย 3 ราย ภายในสระน้ำกลางทุ่งนา บ้านดอนม่วง ตำบลหนองอึ่ง อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ จึงประสานขอกำลังสนับสนุนจากทีมกู้ภัยทางน้ำของมูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ จุดอุทุมพรพิสัย และรุดไปยังจุดเกิดเหตุ
จุดเกิดเหตุเป็นสระน้ำกลางทุ่งนา ห่างจากหมู่บ้านราว 1 กิโลเมตร พบชาวบ้านกำลังช่วยกันงมหาร่างของเด็กหญิงทั้งสามอย่างเร่งรีบ ทราบชื่อต่อมาคือ “น้องน้ำ” อายุ 9 ปี, “น้องฟ้า” “น้องฝน” ซึ่งเป็นฝาแฝด อายุ 10 ปี ทั้งสามเป็นเพื่อนสนิทกัน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านสามารถนำร่างของเด็กหญิงทั้งสามขึ้นจากน้ำได้ในเวลาต่อมา ก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลอำเภอราษีไศล ท่ามกลางความหวังของญาติและทีมแพทย์ที่พยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้ายเด็กหญิงทั้งสามก็เสียชีวิตลง ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าคร่ำครวญ เสียงร้องไห้ระงมไปทั่วโรงพยาบาล ญาติบางรายถึงกับเป็นลมล้มพับด้วยความเสียใจ
ผู้เห็นเหตุการณ์คือ “น้องพีช” เด็กชายวัยเพียง 4 ขวบ เล่าว่า เขากับพี่ ๆ ปั่นจักรยานเล่นรอบหมู่บ้าน ก่อนพากันไปที่สระน้ำกลางทุ่งนา โดยตั้งใจแค่เล่นกันริมสระ แต่พี่สาวทั้งสามคนเห็นว่าชุดเลอะจึงลงไปเล่นน้ำกัน ต่อมาไม่นานเขาเห็นพี่ ๆ ค่อย ๆ จมหายไปต่อหน้าต่อตา ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งกลับเข้าหมู่บ้านไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่
นางราตรี เถาหอม อายุ 56 ปี ย่าของน้องฟ้าและน้องฝน เปิดเผยทั้งน้ำตาว่าเธอเลี้ยงหลานฝาแฝดมาตั้งแต่มีอายุเพียง 1 เดือน จนถึงปัจจุบัน ทั้งสองคนเป็นเด็กดี มีความรับผิดชอบ ขยันช่วยงานบ้านและเรียนหนังสือเก่ง ไม่เคยคาดคิดว่าหลานจะไปเล่นน้ำ เพราะทั้งคู่ไม่ชอบเล่นน้ำเลย ก่อนเกิดเหตุประมาณ 10 วัน เธอฝันร้ายว่าหลานแฝดจมน้ำเสียชีวิต จึงผูกฝ้ายเรียกขวัญให้หลาน และหนึ่งวันก่อนเกิดเหตุ ยังได้ยินเสียงอีกาและหมาหอนทั้งคืน โดยไม่คาดคิดว่าจะเป็นลางร้าย
นางอุทัย เบิกบาน อายุ 56 ปี ย่าของน้องน้ำ เล่าด้วยความโศกเศร้าว่า เมื่อทราบข่าวจากน้องพีชว่าเด็กทั้งสามจมน้ำ เธอรีบวิ่งไปยังสระน้ำและกระโดดลงไปช่วยทันที แต่ด้วยความลึกของสระทำให้ไม่สามารถช่วยได้ จึงต้องรีบตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะมาถึงและพาร่างเด็กหญิงทั้งสามส่งโรงพยาบาล ซึ่งแม้จะพยายามสุดความสามารถ แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
เหตุการณ์เศร้าสลดครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจแก่ครอบครัวและชาวบ้านในพื้นที่อย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ปกครองและญาติของเด็กทั้งสาม ที่ต้องสูญเสียแก้วตาดวงใจไปอย่างไม่มีวันหวนคืน
