สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่า แอ่งน้ำที่เพิ่งก่อตัวขึ้นเริ่มไหลผ่าน และผ่านพ้นบริเวณที่มีเศษซาก ซึ่งเกิดจากธารน้ำแข็งเบิร์ชที่พังทลายลงมา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (28 พ.ค.) จนปิดกั้นแม่น้ำลอนซา ในรัฐวาเล ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ

สภาพของภูเขาบีชฮอร์นบนเทือกเขาแอลป์ หลังเกิดเหตุธารน้ำแข็งเบิร์ช ซึ่งเกาะตัวอยู่บริเวณนี้ พังทลายลงมา จนทับหมู่บ้านแบลตเทิน ในรัฐวาเล ทางตอนใต้ของสวิตเซอร์แลนด์

นายสเตฟาน กานเซอร์ หัวหน้าแผนกความมั่นคงระดับภูมิภาค กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นเรื่องดี แต่พวกเขายังคงระมัดระวัง เนื่องจากความเสี่ยงยังคงมีอยู่ แม้จะลดน้อยลงก็ตาม นอกจากนั้น เขาย้ำว่า “ไม่มีแผนอพยพ” หมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่ตามแนวพื้นที่ปลายน้ำของหุบเขาเลิตเชินทัล

เฮลิคอปเตอร์ของหน่วยกู้ภัยสวิตเซอร์แลนด์ สำรวจหมู่บ้านแบลตเทิน ในรัฐวาเล ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งเสียหายอย่างหนักหลังเกิดเหตุธารน้ำแข็งพังถล่ม

ด้านหน่วยงานภัยธรรมชาติของรัฐวาเลระบุในแถลงการณ์ ว่าการไหลออกของน้ำทำให้พวกเขามีความหวัง อย่างไรก็ตาม การสูบน้ำออกจากทะเลสาบเทียมยังไม่เริ่มขึ้น เนื่องจากพื้นดินยังคงไม่มั่นคง โดยเฉพาะบนไหล่เขา

ทั้งนี้ทั้งนั้น เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวัง ขณะที่ชุมชนทางส่วนล่างของหุบเขาโรน ได้เตรียมพร้อมการอพยพที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่เขื่อนเทียมในหมู่บ้านเฟอร์เดน ซึ่งอยู่ด้านล่างของหุบเขาเลิทเชินทัล ได้รับการระบายน้ำแล้ว และน่าจะสามารถกักเก็บน้ำที่ไหลลงมาอีกได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงไม่พบชายวัย 64 ปี ที่เชื่อว่าอาศัยอยู่ในเขตอันตราย และสูญหายตั้งแต่วันเกิดเหตุ ขณะที่ธารน้ำแข็งสร้างความเสียหาย ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ของหมู่บ้านแบลตเทิน ขณะที่ผู้อยู่อาศัยประมาณ 300 คน แต่เจ้าหน้าที่อพยพประชาชนล่วงหน้า ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว.

เครดิตภาพ : AFP