เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กลายเป็นไวรัลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ หลังเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 68 เพจเฟซบุ๊ก “คลินิกสูตินรีเวช โอบรักโดย หมอสูตินรีเวช” ได้เปิดเผยกรณีศึกษาที่ได้รับความสนใจในวงการแพทย์และสังคมออนไลน์ เป็นกรณีของหญิงตั้งครรภ์รายหนึ่งที่เข้ารับการฝากครรภ์ในอายุครรภ์ประมาณ 10 สัปดาห์ โดยมีประวัติติดเชื้อซิฟิลิส เบื้องต้นแพทย์ทำการอัลตราซาวด์ผ่านทางหน้าท้องแต่ไม่สามารถมองเห็นตัวทารกได้ชัดเจน จึงเปลี่ยนมาใช้อัลตราซาวด์ทางช่องคลอด ซึ่งพบว่าทารกในครรภ์มีขนาดเทียบเท่ากับอายุครรภ์ประมาณ 8 สัปดาห์ แต่ไม่พบการเต้นของหัวใจ
อีกทั้ง เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจสุขภาพก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะการตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อพัฒนาการ และชีวิตของทารกในครรภ์ แพทย์เผยว่าการฝากครรภ์อย่างสม่ำเสมอและการตรวจคัดกรองโรคต่างๆ ตั้งแต่ระยะแรก เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการดูแลสุขภาพแม่และลูก พร้อมเน้นย้ำให้ผู้หญิงที่วางแผนจะมีบุตร เข้ารับการตรวจสุขภาพและป้องกันโรคติดต่ออย่างเหมาะสม
โดยเพจคลินิกสูตินรีเวช โอบรักโดย หมอสูตินรีเวช ระบุข้อความว่า “มีเคสหนึ่งที่แม่ป่วยเป็นซิฟิสลิสแล้วมาฝากครรภ์ พบว่าอายุครรภ์ 10 สัปดาห์ ตอนแลกอัลตราซาวด์ทางหน้าท้อง แต่เห็นน้องไม่ชัด จึงเปลี่ยนมาเป็นการอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดแทน และพบว่าเห็นตัวเด็ก วัดขนาดของน้องได้ประมาณ 8 สัปดาห์ แต่ไม่เห็นว่าหัวใจของน้องเต้นแล้ว”
นอกจากนี้ “ส่วนใหญ่เด็กที่เสียชีวิตในครรภ์ มีสาเหตุมาจากโครโมโซมส่วนใหญ่ แต่ว่าของคุณแม่คนนี้ เขาติดเชื้อซิฟิลิส ซึ่งไม่รู้ว่าติดมาตั้งแต่ตอนไหน แต่มารู้เมื่อตอนมาฝากครรภ์ โดยที่ค่าซิฟิลิสขึ้นค่อนข้างเยอะ สาเหตุที่หมอคิดถึง คือ น้องมีภาวะติดเชื้อซิฟิลิส ทำให้เด็กในท้องบวมน้ำจนเสียชีวิต การติดเชื้อซิฟิลิส อันตรายมากๆ หรือที่เราเรียกว่า กามโรค อันตรายมากๆ ติดเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งโรคนี้รักษาง่ายมาก คือใช้ยาฉีดฆ่าเชื้อ ทุก 1 สัปดาห์ เพียง 3 เข็ม แค่นี้เลย”
อย่างไรก็ตาม “การที่ติดเชื้อซิฟิลิส ทำให้เด็กพิการรุนแรงได้ ทั้ง ตาพิการ หัวใจพิการ และมีภาวะบวมน้ำในท้อง อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต โดยหมอเจอเคสที่แม่ติดเชื้อซิฟิลิส ทำให้ลูกเสียชีวิตในครรภ์หลายเคสแล้ว ดังนั้น ควรไปฝากครรภ์ให้เร็ว และถ้าพบว่ามีการติดเชื้อก็รักษาด้วยการฉีดยาฆ่าเชื้อ ซึ่งสามารถป้องกันการติดเชื้อไปสู่ลูกได้”
ขอบคุณข้อมูล : คลินิกสูตินรีเวช โอบรักโดย หมอสูตินรีเวช
