เมื่อวันที่ 29 พ.ค. นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการโอนรถปลดประจำการของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสกลนครให้กับวัดสระแก้ว ก่อนโอนกรรมสิทธิ์รถให้ ผอ.วิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้มีการซื้อขาย เนื่องจากทางวัดส่งรถซ่อมบ่อยและไม่มีงบดูแล จึงโอนให้นำไปใช้ประโยชน์ที่สถานศึกษา ว่า เจ้าหน้าที่ประกันสังคมได้มีการออกไปตรวจสอบก่อนบริจาคให้กับทางวัด และเห็นว่ามีความจำเป็นจริง จึงบริจาคให้กับวัดเพื่อใช้ประโยชน์ และเพิ่งมาทราบว่ามีการโอนกรรมสิทธิ์ต่อให้บุคคลอื่นจากข่าวที่เกิดขึ้น จึงทำการตรวจสอบย้อนกลับและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งทางวัดและทาง ผอ.โรงเรียน ก็พูดตรงกัน ปัจจุบันก็ยังมีการนำรถมารับส่งทางเจ้าอาวาสวัดอยู่ และยังนำไปให้นักเรียนซ่อมแซม เสมือนเป็นอาจารย์ใหญ่ทางการศึกษาด้วย แต่จากปัญหาที่เกิดขึ้น ได้มอบหมายให้เลขานุการกรม ตรวจสอบย้อนหลังกับสำนักงานขนส่ง ว่ารถที่บริจาคไปมีทะเบียนใดบ้าง ที่ไม่ได้เป็นของวัดและสถานศึกษาแล้ว

ส่วนวิธีการจัดการรถปลดประจำการหรือรถเก่าของสำนักงาน การบริจาคก็เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์สำนักงาน ที่หมดความจำเป็นหรือครบอายุการใช้งาน สามารถจำหน่ายและบริจาคได้ตามระเบียบ โดยรถยนต์มีอายุที่ใช้งานมากกว่า 10 ปี จึงพิจารณาเรื่องการบริจาคให้หน่วยงานได้นำไปใช้ประโยชน์ โดยมีคณะทำงานลงพื้นที่ไปตรวจสอบก่อนบริจาคด้วยความรอบคอบและเป็นไปอย่างเหมาะสม ซึ่งมีทั้งวัด สำนักงานแรงงานจังหวัด โดยหลังจากนี้ก็จะมีความเข้มข้นในการบริจาคออกไป โดยให้หลักการเบื้องต้น ต้องเป็นหน่วยงานเป็นหลัก เพื่อที่จะให้มีงบในการซ่อมได้

ส่วนกระแสวิจารณ์ในสังคมที่เกิดขึ้น จะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนจากการบริจาคเป็นการจำหน่ายหรือไม่นั้น เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ระบุว่า การจำหน่ายก็มี ในรอบที่แล้วก็ทำการจำหน่ายไป อย่างไรก็ตามต้องดู 2 องค์ประกอบ เรื่องของการบริจาคก็ยังต้องมีอยู่ แต่ต้องมีความเข้มข้นในการตรวจสอบหน่วยงานผู้รับ เน้นบริจาคให้กับหน่วยงานราชการก่อน เพื่อให้หมดปัญหาเรื่องงบประมาณในการซ่อม.