สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ว่า คนขับรถแท็กซี่ชาวฝรั่งเศส ปิดกั้นถนนหลายสายตามจุดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความขัดแย้งกับรัฐบาลปารีส ในเรื่องค่าโดยสารบริการส่งผู้ป่วย ซึ่งสำหรับคนขับรถแท็กซี่หลายคน มันถือเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจของพวกเขา

ขณะเดียวกัน กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ก็แสดงความไม่พอใจอีกครั้งต่อบริการเรียกรถโดยสารอื่น ๆ เช่น อูเบอร์ และโบลต์ ซึ่งพวกเขามองว่า บริการเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อการดำรงชีวิตของพวกเขา ซึ่งไม่ได้รับการกำกับดูแลที่ดีพอ

ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องหลักของคนขับรถแท็กซี่ คือ การยกเลิกกฎระเบียบใหม่ทั้งหมดที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือน ต.ค. นี้ เกี่ยวกับการขนส่งผู้ป่วย เพื่อปรับค่าโดยสารให้สอดคล้องกันทั่วประเทศ ซึ่งคนขับรถแท็กซี่ให้เหตุผลว่า การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้รายได้ของพวกเขาลดลงอย่างมาก

CLPRESS / News agency – Breaking news in France

“เราขอเรียกร้องให้ยกเลิกข้อตกลงนี้ในทันที และกลับสู่โต๊ะเจรจา” นางเอ็มมานูเอล คอร์ดิเยร์ ประธานสหพันธ์แท็กซี่แห่งชาติ (เอฟเอ็นดีที) กล่าว

ยิ่งไปกว่านั้น คอร์ดิเยร์ระบุเสริมว่า หากไม่มีความคืบหน้าใด ๆ กลุ่มคนขับรถแท็กซี่จะรวมตัวปิดกั้นทางเข้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติชาร์ลส์ เดอ โกล ในกรุงปารีส และการแข่งขันเทนนิส “เฟรนช์ โอเพ่น” ตั้งแต่วันจันทร์นี้ (26 พ.ค.) เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปารีสไม่มีแผนที่จะยกเลิกกฎระเบียบใหม่ที่ถือว่า “มีความจำเป็น”  หลังค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งเพื่อสาธารณสุขสูงถึง 6,740 ล้านยูโร (ราว 249,000 ล้านบาท) ในปี 2567 ซึ่งรวมถึงเงิน 3,070 ล้านยูโร (ราว 113,400 ล้านบาท) สำหรับแท็กซี่ที่มีใบอนุญาต.

เครดิตภาพ : AFP