พอลีน ฟิตซ์ซิมอนส์ วัย 58 ปี เสียชีวิตขณะขับรถฝ่าน้ำท่วมที่เมืองดอร์ริโก ใกล้กับเมืองคอฟส์ฮาร์เบอร์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ของออสเตรเลีย เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
ครอบครัวของเธอเล่าว่า ก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่ง ให้เบอร์โทรศัพท์มือถือแก่ฟิตซ์ซิมอนส์ เผื่อไว้ให้เธอติดต่อมาในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งหลังจากนั้นเพียง 20 นาที เธอก็โทรฯ หาเขาด้วยอาการ “ตื่นตระหนก” เนื่องจากรถที่เธอขับอยู่กำลังจะจมน้ำ
เทียร์แนน ฟิตซ์ซิมอนส์ ลูกชายของเธอ กล่าวในแถลงการณ์ต่อสำนักข่าว 9 News ว่า “เธอเล่าให้คนที่บ้านฟังว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกเธอว่า เขารู้ทางไปคอฟส์ฮาร์เบอร์ที่ปลอดภัย และจะพาเธอไป”

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเช่นนั้น เทียร์แนน เล่าว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพาแม่ของเขาขับรถลุยฝ่าน้ำท่วม จากนั้นก็ปล่อยให้เธอขับรถไปตามลำพัง
“ความคิดที่ว่าแม่ของเราขับรถประมาท เป็นเรื่องโกหกที่เลวร้ายมาก” เทียร์แนน กล่าว
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ เดวิด แวดเดลล์ บอกสื่อมวลชนว่า ฟิตซ์ซิมอนส์ขับรถขับเคลื่อนสี่ล้ออยู่ในขบวนรถตำรวจ ตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจที่จะย้อนกลับไปทางเดิม
“เขาตรวจสอบระดับน้ำให้เธอ และเธอตัดสินใจที่จะเดินทางต่อไป” แวดเดลล์ กล่าว “ระดับน้ำสูงแค่ข้อเท้าเท่านั้น”
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแวดเดลล์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เตือนหญิงผู้เคราะห์ร้ายแล้วว่า ไม่ควรขับรถฝ่าน้ำท่วมและให้หมายเลขโทรศัพท์แก่เธอเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน จากนั้น ฟิตซ์ซิมอนส์ก็ขับรถต่อไป แต่ในอีก 30 นาทีต่อมา เธอก็โทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเกิดเรื่องขึ้น รถของเธอกำลังจมน้ำ
ตำรวจส่งทีมออกค้นหาฟิตซ์ซิมอนส์ แต่หาตัวเธอไม่พบ
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแวดเดลล์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นคนนำทางให้ฟิตซ์ซิมอนส์ รู้สึกผิดและทุกข์ใจอย่างมากเมื่อรู้ข่าวหลังจากพบศพแล้วว่า ฟิตซ์ซิมอนส์เสียชีวิตอยู่ในรถของเธอเอง และกลายเป็นหนึ่งในสี่คนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบ 500 ปี ของออสเตรเลีย
เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ในแถลงการณ์ของตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่า จะมีการสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบเกี่ยวกับสถานการณ์การเสียชีวิตของฟิตซ์ซิมอนส์
ที่มา : nypost.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES