เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 12 พ.ค. ร.ต.อ.ไพบูลย์ ชัยทิพย์ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากนายสัญญา แย้มบุปผา สจ.เขต 5 จ.อุดรธานี มีผู้หญิงสูงอายุป่วยหลายโรค โดนญาตินำมาฝากไว้ที่สมาคมคนพิการบ้านหนองบุ ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งสมาคมคนพิการไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้ แต่ประสานให้ญาติมารับกลับก็ไม่ได้ จึงได้นำหญิงป่วยมาไว้ที่บ้าน สจ.พร้อมกับประสาน พมจ.อุดรธานี ให้มารับตัวหญิงป่วยไปบ้านพัก รอมาประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่ยังไม่ออกมารับ จึงโทรแจ้งตำรวจ จึงได้นำกำลังออกไปตรวจสอบ
พบนางรัศมี อายุ 58 ปี ชาวอุดรธานี นั่งอยู่บนรถตู้ มีห่อยารักษาโรคจำนวนมาก ซึ่งนางรัศมีพูดคุยและถามตอบรู้เรื่อง แต่ใช้เวลาคิดนาน พูดไปด้วยร้องไห้ไปด้วย ซึ่งจากการสอบถาม นางรัศมีเล่าว่า เป็นชาวบ้านนาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี มีลูก 4 คน แต่ลูกแยกย้ายกันไปมีครอบครัวหมดแล้ว ตอนนี้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน ไทรอยด์ จนต้องตัดนิ้วโป้งเท้าขวาทิ้ง ลูกสาวได้นำตนไปอยู่ที่ศูนย์รับเลี้ยงดูผู้ป่วยแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองอุดรธานี นานประมาณ 2-3 ปี ลูกสาวไม่เคยมาหามาเยี่ยม และไม่มีเงินจ่าย วันนี้เจ้าหน้าที่โทรหาก็ตัดสายทิ้ง เจ้าหน้าที่เลยพามาส่งบ้านญาติ แต่ก็ไม่มีใครรับดูแลตั้งแต่เที่ยงวัน
นายสัญญา เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจาก อสม.ในพื้นที่ว่าพบนางรัศมี ลักษณะเหมือนถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ เมื่อสอบถามทราบว่านางรัศมีต้องการกลับบ้านที่นาข่า แต่เมื่อพาไปถึงก็พบว่าบ้านเดิมได้ขายไปแล้ว ลูกๆ ก็แยกย้ายกันไปหมด นางรัศมีจึงบอกให้ไปส่งที่วัด แต่ด้วยความกังวลเรื่องความปลอดภัย ตนจึงนำนางรัศมีมาพักไว้ที่บ้านและประสาน พมจ.อุดรธานี แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่มารับเสียที จึงต้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจ
ร.ต.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ได้สอบถามไปยังศูนย์ดูแลผู้ป่วยเดิม พบว่าลูกสาวของนางรัศมีค้างค่าดูแลอยู่ประมาณ 1 แสนบาท ศูนย์ฯ จึงนำตัวนางรัศมีมาฝากน้องสาว แต่ก็ไม่ได้รับการดูแล เมื่อติดต่อลูกสาวก็ไม่รับสาย เบื้องต้นตำรวจจึงได้นำตัวนางรัศมีไปพักไว้ที่ศูนย์ 191 สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อรอประสาน พมจ.อุดรธานี ให้มารับไปดูแลต่อไป
ต่อมา นายณฐพล วิถี รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ในฐานะผู้ดูแลงาน พมจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นแล้ว และได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ทราบว่าผู้สูงอายุมีอาการป่วยทางร่างกายและจิตเวช ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหาสถานที่พักชั่วคราว โดยคืนนี้จะนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อตรวจรักษาอาการในวันพรุ่งนี้ จากนั้นจะประเมินสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป
