สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ว่านายอาเตาเลาะห์ ทาราร์ รมว.ข่าวสารปากีสถาน กล่าวว่า นับตั้งแต่มีการปะทะกันอย่างหนักข้ามแดนที่ภูมิภาคแคชเมียร์กับอินเดีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กองทัพปากีสถานยังไม่ได้ปฏิบัติการทางทหารกับอินเดียอีก ถือเป็นการปฏิเสธรายงานของอินเดีย ที่กล่าวหาว่า กองทัพปากีสถานปฏิบัติการโจมตีฐานทัพสองแห่ง ในรัฐชัมมูร์และกัศมีร์ และอีกหนึ่งแห่งที่รัฐปัญจาบ
ขณะที่นายชาฟกัต อาลี ข่าน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน กล่าวว่า ความกระหายสงครามและแนวคิดชาตินิยมแบบหยิ่งผยองของอินเดีย เป็นเรื่องที่ประชาคมระหว่างประเทศควรแสดงความวิตกกังวล เนื่องจากปฏิบัติการทางทหารของอินเดีย กำลังทำให้อินเดียและปากีสถาน ซึ่งเป็นสองประเทศในเอเชียใต้ที่มีอาวุธนิวเคลียร์ เข้าใกล้สงครามมากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
#UPDATE Pakistan charged India on Friday with bringing the nuclear-armed neighbours "closer to a major conflict", as the death toll from three days of missile, artillery and drone attacks passed 50 ➡️ https://t.co/XMk6K2NYeR pic.twitter.com/dOC29w4wYe
— AFP News Agency (@AFP) May 9, 2025
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับปากีสถานดำดิ่งถึงขีดสุดในรอบหลายสิบปี หลังเกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธกราดยิงกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่เมืองพาฮาลแกม ในรัฐชัมมูและกัศมีร์ หรือภูมิภาคแคชเมียร์ภายใต้อธิปไตยของอินเดีย เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 ราย
หลังเกิดเหตุ รัฐบาลอินเดียกล่าวว่า เป็นฝีมือของกลุ่มลาชการ์-อี-ไทบา ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในปากีสถาน และเป็นองค์กรก่อการร้ายในบัญชีดำของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ขณะที่รัฐบาลปากีสถานยืนกรานปฏิเสธ แล้วต่อจากนั้น ทั้งสองประเทศเดินหน้าใช้มาตรการตอบโต้กันอย่างหนัก ทั้งในทางการทูตและการค้า
ต่อจากนั้น กองทัพอินเดียเป็นฝ่ายเปิดฉากปฏิบัติการโจมตีทางทหารกับปากีสถาน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 ราย และกองทัพปากีสถานตอบโต้ ด้วยการยิงปืนใหญ่ตามแนวแอลโอซี ส่งผลให้มีชาวอินเดียเสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย.
เครดิตภาพ : AFP